ปัญหาร่องตาลึกหรือเบ้าตาลึกที่มาพร้อมความคล้ำใต้ตาและริ้วรอยที่เห็นได้ชัดเจนบริเวณรอบดวงตา ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่กวนใจใครหลาย ๆ คน เพราะนอกจากจะทำให้เสียความมั่นใจแล้ว ยังทำให้หน้าดูโทรม ไม่สดใส และดูแก่กว่าวัยอีกด้วย มาดูกันดีกว่าว่าปัญหาร่องตาลึกสามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีใดบ้าง ดึงหน้าช่วยได้หรือไม่ และวิธีไหนที่เหมาะสมพร้อมให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาร่องตาลึก
ปัญหาร่องใต้ตาลึกเกิดได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นทางพันธุกรรมหรือสภาพแวดล้อมภายนอก ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 5 สาเหตุ ดังนี้
1. อายุที่เพิ่มขึ้น
เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ไขมันบริเวณใต้ตาจะเริ่มฝ่อลง ร่องใต้ตาก็จะขยายกว้างขึ้น และทำให้ร่องตาดูลึกขึ้น
2. ภูมิแพ้หรือมีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
สำหรับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้หรือมีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงในบางรายก็อาจจะพบปัญหาเบ้าตาลึกหรือตาโหลได้
3. ผลของการผ่าตัดถุงใต้ตา
การผ่าตัดถุงใต้ตาเป็นการนำไขมันบริเวณใต้เปลือกตาล่างออก หากนำออกไปมากเกินอาจทำให้ผิวหนังใต้ตายุบลง และส่งผลให้ดูตาลึกโหล
4. ไลฟ์สไตล์และสภาพแวดล้อม
รูปแบบการใช้ชีวิตที่ไม่ถนอมดวงตา เช่น การพักผ่อนน้อย ความเครียด แสงแดด และมลพิษ เป็นต้น
5. ลักษณะทางกายภาพของเบ้าตา
ลักษณะทางกายภาพของโครงสร้างกะโหลกศีรษะที่มีเบ้าตาลึก เป็นลักษณะที่มักไม่ค่อยพบในชาวเอเชีย
3 วิธีแก้ไขปัญหาร่องตาลึก
1. แต่งหน้า
การแต่งหน้าเพื่อแก้ไขร่องตาลึกเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ด้วยการเลือกใช้เครื่องสำอางปรับสีผิวรอบดวงตาให้ดูคล้ำน้อยลง ดูกระจ่างใส และปกปิดไร้ริ้วรอย เมื่อแสงตกกระทบลงบนผิวจะทำให้เงาดูลดลง ผิวรอบดวงตาสว่างขึ้น ส่งผลให้ไม่ดูตาลึกโบ๋
- ข้อดี:
ค่าใช้จ่ายไม่สูง ทำได้ง่าย เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาร่องตาลึกระดับเบื้องต้น
- ข้อจำกัด:
ต้องใช้เวลาแต่งหน้าเพิ่มขึ้นในแต่ละครั้ง และการแต่งหน้าเป็นเพียงการแก้ไขแบบชั่วคราวเท่านั้น
2. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา (Filler) คือ การนำสารสังเคราะห์ที่สร้างขึ้นมาให้ใกล้เคียงกับสารที่มีอยู่ในร่างกาย เช่น กรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) ฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังบริเวณใต้ตา เมื่อฉีดเข้าไปแล้วจะทำให้ผิวหนังใต้ตาที่เป็นร่องลึกดูเต็มอวบอิ่มกว่าเดิม
- ข้อดี:
ไม่ยุ่งยาก เห็นผลทันที และสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น
- ข้อจำกัด:
ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6 – 8 เดือน (ขึ้นอยู่กับการดูแลและการปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์) จึงต้องมีการฉีดซ้ำเรื่อย ๆ เพื่อรักษาผลลัพธ์ที่ต่อเนื่อง
3. ดึงหน้าพร้อมเติมไขมัน
เป็นวิธีการแก้ไขปัญหาร่องตาลึกและริ้วรอยที่ได้ผลและคงทนถาวรที่สุด เป็นการผ่าตัดดึงผิวหนังบริเวณเปลือกตาให้ยกกระชับขึ้น พร้อมนำไขมันของตัวเองตามส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น ต้นขาหรือหน้าท้อง มาฉีดเข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง เซลล์ไขมันที่ถูกฉีดเข้าไปจะช่วยทำให้ผิวหนังบริเวณรอบดวงตาดูเต่งตึงขึ้น
- ข้อดี:
ใช้ไขมันของตัวเองจึงไม่สลายหายไป ไม่ใช่สิ่งแปลกปลอม ไม่เป็นอันตราย ผลลัพธ์อยู่ได้นานและถาวรกว่าวิธีอื่น ๆ
- ข้อจำกัด:
ต้องมีการดูดไขมันจากส่วนอื่นมาใช้ด้วย และสำหรับปัญหาตาโหลอาจไม่เห็นผล 100% ทันทีตั้งแต่ครั้งแรกหากเทียบกับการฉีดฟิลเลอร์
ไม่ว่าจะเลือกวิธีแก้ไขปัญหาร่องตาลึกวิธีไหน ก็ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนการตัดสินใจทุกครั้ง เพื่อประเมินถึงวิธีการที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล และเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจและคงทนถาวรมากที่สุด
อ้างอิง :
http://demo-teeraporn.ini3.co.th/?p=18373
http://demo-teeraporn.ini3.co.th/?p=21840