Adipose Mesenchymal คืออะไร
คือ เซลล์ต้นกำเนิดชนิดหนึ่ง ที่พบได้ในไขมันในร่างกายของเรา เซลล์เหล่านี้มีความสามารถในการพัฒนาเป็นเซลล์ชนิดต่างๆ ของร่างกาย เช่น เซลล์กระดูก เซลล์กล้ามเนื้อ เซลล์ประสาท และเซลล์ไขมัน ซึ่งสมัยก่อน Adipose Mesenchymal หาเจอได้เฉพาะในไขกระดูก
และเอาไว้แค่รักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดต่างๆ แต่ปัจจุบันสามารถพบได้ในไขมันทั่วร่างกาย ซึ่งปัจจุบันสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับ การรักษาโรค การฟื้นฟูเนื้อเยื่อ และการเสริมความงาม
คุณสมบัติของ Adipose Mesenchymal
แบ่งออกได้เป็น 2 อย่างด้วยกัน คือ
- สามารถซ่อมแซมตัวเองได้
- สามารถเปลี่ยนไปเซลล์ชนิดอื่นๆ ได้ เช่น เซลล์ของ Adipose Mesenchymal เป็นตัวตั้งต้น สามารถเปลี่ยนเป็นเซลล์ผิวหนัง กระดูก กระดูกอ่อนอ่อน หรือเส้นผมก็ได้ ซึ่งจะต้องอยู่ภายใต้ความเหมาะสม เช่น อุณหภูมิที่เหมาะ สารเลี้ยงที่เหมาะสม และภาวะรอบตัวที่เหมาะสม
ความสำคัญของ Adipose Mesenchymal
คือ สามารถกระตุ้นให้เซลล์ปกติ สามารถสร้าง Growth Factor ออกมาได้ ซึ่งมีข้อดีก็คือ เวลาที่เติมไขมัน หรือ FAT TRANFER WITH CELL IN SVF เข้าไปบริเวณใบหน้า ใบหน้าจะดูเต็งตึง อิ่มน้ำอิ่มนวลขึ้น เนื่องมาจาก เซลล์ปกติสามารถหลั่งสารนี้อยู่แล้ว แต่เมื่อทำปฏิกริยากับ Adipose Mesenchymal เข้าไปกระตุ้น จะทำให้หลั่งสารที่เป็น Growth Factor ขึ้นมา เพื่อซ่อมแซมตัวเองให้มากขึ้น ส่งผลให้ผิวดูสดชื่น อ่อนเยาว์มากขึ้น
และจากการทดลองเพิ่มเติม จากการฉีดบริเวณชั้นผิว Dermis หรือ ผิวหนังชั้นหนังแท้ที่มีคอลลาเจนจำนวนมาก เมื่ออายุมากขึ้นคอลลาเจนจากเรียงตัวเป็นระเบียบ ก็จะคล้อยลง และคอลลาเจนก็จะค่อยๆหายไป แต่เมื่อฉีด Adipose Mesenchymal เข้าไป คอลลาเจนก็หนาแน่นขึ้น เรียงตัวเป็นระเบียบมากขึ้น ตามภาพด้านล่างนี้
Adipose Mesenchymal ถือว่ามีประโยชน์อย่างมาก นอกจากจะรักษาโรคได้แล้ว ยังสามารถช่วยในเรื่องความสวยงามได้เช่นกัน ซึ่งความลับการใช้ Adipose Mesenchymal อยู่ที่การสกัดด้วยเทคนิค SVF หรือเรียกว่า Adipose Mesenchymal Extraction คิดค้นโดยหมอชลธิศ ปัจจุบันมีเพียงแค่ธีรพรเท่านั่น ที่ทำได้
การค้นพบเกิดขึ้นเมื่อไหร่
Adipose Mesenchymal ถูกค้นพบเมื่อปี1998 พ.ศ.2541 โดย นพ.มิตซูโน ฮิโรชิ (Mizuno Hiroshi) หัวหน้าแผนกศัลยกรรมตกแต่ง แห่งมหาวิทยาลัยจุนเท็นโด (Juntendo) ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้สังเกตุเห็นว่า ในอเมริกามีการดูดไขมันส่วนเกินจำนวนมากและนำไปทิ้ง จึงได้คิดหาวิธีนำมาใช้ประโยชน์ จึงได้เริ่มทำวิจัยจนพบว่าในไขมันมีส่วนที่เรียกว่า Adipose Mesenchymal
เพื่อนำมาใช้รักษาแผลผ่าตัด และสามารถช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อ ทำให้แผลฟื้นฟูตามธรรมชาติจนเห็นผลได้ชัดเจน หลังจากวิจัยและทดลองมา 10 ปี จนได้ผลเป็นที่น่าพอใจ จึงได้เผยแพร่งานวิจัย และได้เดินทางมาบรรยายให้ความรู้กับทีมแพทย์ของธีรพร และช่วยต่อยอดผลงานการพัฒนา การใช้ Adipose Mesenchymal ของหมอชลธิศที่มีการคิดค้นมานานกว่า 30 ปี
หมอชลธิศ ค้นพบประโยชน์อะไรในตัว Adipose Mesenchymal
หมอชลธิศมีความสนใจในเรื่องการนำไขมันมาเสริมจมูก เพื่อแก้ไขปัญหาจมูกทะลุ ตั้งแต่ปี 2536 เพราะพบว่ามีคนไข้มีปัญหาเรื่องซิลิโคนทะลุจำนวนมาก จึงพยายามหาวิธีการรักษา ซึ่งในช่วงแรกพบว่า ไขมันที่นำไปใส่ บางครั้งละลาย แต่บางครั้งก็ไม่ละลาย และไม่เข้าใจถึงสาเหตุ
จนหมอชลธิศได้อ่านงานวิจัยของ นพ.มิตซูโน ฮิโรชิ ในหัวข้อ 10 ปี ในการศึกษาวิจัย Adipose Mesenchymal ที่ได้จากไขมันสำหรับการซ่อมแซมเนื้อเยื้อ และการสร้างเซลล์ใหม่ จนเป็นที่มาของการร่วมกันพัฒนาวิธีการสกัดเอา Adipose Mesenchymal จากไขมันในร่างกาย มาใช้ในการรักษา และเสริมความงามบนใบหน้าได้แก่ จมูก คาง ปาก ใต้ตา หน้าผาก และส่วนอื่นๆ
เทคนิคการใช้ประโยชน์จาก Adipose Mesenchymal โดยหมอชลธิศ
ไขมันที่เอาออกด้วยเทคนิคของธีรพร คือเทคนิค SVF (Stromal Vascular Fraction) คือ กรรมวิธีในการแยก Adipose Mesenchymal จากไขมัน โดยการดูดไขมัน แล้วแยกเอาเนื้อไขมันออก เหลือแค่องค์ประกอบส่วนที่ไม่มีเซลล์ไขมัน ซึ่งเป็นวิธีที่ทำได้เฉพาะที่ธีรพร ที่สามารถใช้เตรียมไขมัน แล้วปลูกถ่ายได้เลย ใช้รูปแบบของการฉีด (Fat Tranfer With Cell in SVF) ก็ได้ สามารถฉีดได้ทั่วบริเวณใบหน้า และนำมาปั้นเป็นทรงจมูก เสริมคาง เสริมบริเวณเบ้าตาที่โบ๋ได้สำเร็จ
และเก็บเป็นความลับมานานกว่า 10 ปีในการใช้ไขมัน Adipose Mesenchymal บริเวณจมูก เป็นส่วนที่ทำได้ยากที่สุด เพราะจมูกเป็นบริเวณเดียวของใบหน้าที่ไม่มีไขมัน และฉีดเพิ่มไม่ติด จมูกจึงเปรียบเหมือนกับภูเขาหิน ที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตเจริญเติบโตได้
แต่ ที่ธีรพร หมอชลธิศได้ค้นคว้าและวิจัยมาเป็นเวลานานถึง 30 ปี จนสามารถเอาไขมัน มาเสริมบนกระดูกจมูกได้ ด้วยเทคนิคพิเศษของหมอชลธิศ ผ่านการทดลองซ้ำแล้วซ้ำเหล่า แต่ไม่เคยคิดย่อท้อ จนประสบความสำเร็จ ส่งผลให้ หมอชลธิศ คิดค้นและสามารถทำได้สำเร็จ และนำมาใช้จริงได้ ที่สามารถเสริมจมูกด้วยเทคนิคนี้ได้ แต่เพียงผู้เดียว
และสามารถแก้ปัญหาซิลิโคนทะลุด้วย Adipose Mesenchymal ได้สำเร็จ สามารถแก้ไขจมูกได้ทันที โดยที่ไม่ต้องถอดพักนานถึง 6 เดือน เหมือนที่อื่น ซึ่งไม่มีผลกระทบตามมาแต่อย่างใด และสามารถนำ Adipose Mesenchymal มาสเริมจมูกแทนซิลิโคนได้ แต่จะไม่เป็นแท่งเหมือนการใช้ซิลิโคน ซึ่งเหมาะกับคนที่ต้องการเสริมจมูกเล็กน้อย เพื่อความโด่งเป็นธรรมชาติ แต่ถ้าบางคนต้องการเสริมให้โด่ง เราจะใช้ซิลิโคนแบบอ่อนนุ่มร่วมกับ Adipose Mesenchymal จะทำให้ผลลัพธ์ออกมาดี ซึ่งจะไม่มีปัญหาเรื่องผนังจมูกบาง หรือซิลิโคนทะลุในภายหลัง
เพราะ Adipose Mesenchymal ที่ใส่เข้าไปจะฟื้นฟูตัวมันเอง ทำให้จมูกคงรูปได้สวยงาม อ่อนนุ่ม ดูเป็นธรรมชาติ และไม่ต้องกังวลเรื่องการถูกกระแทกทำให้เสียรูป ปัจจุบัน ธีรพรได้พัฒนาเทคนิคการใช้ไขมัน Adipose Mesenchymal ให้คงตัวอยู่ได้นานมากขึ้น และมีประสิทธิภาพในการใช้งานให้ดีมากกว่าเดิม โดยร่วมมือกับทาง นพ.มิตซูโน่ เพื่อเชิญมาบรรยายให้ความรู้กับทีมอาจารย์แพทย์ผู่เชี่ยวชาญ และร่วมมือกันพัฒนาเพื่อเป็นผู้นำทางด้าน Adipose Mesenchymal ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
ประโยชน์ของไขมัน Adipose Mesenchymal
สามารถใช้ไขมัน Adipose Mesenchymal ฉีดบริเวณใบหน้าได้ ดังนี้
- หน้าผาก
- จมูก
- คาง
- ร่องแก้ม
- ร่องน้ำหมาก
- ขมับ
- บริเวณตา
- ทั่วใบหน้า
ข้อแตกต่าง
ที่ ธีรพร
- ใช้ไขมัน Adipose Mesenchymal
- ใช้วิธีดูดไขมันแบบ SVF (Stromal Vascular Fraction) คือ กรรมวิธีในการแยก Adipose Mesenchymal จากไขมัน
- เป็นไขมันบริเวณหน้าท้อง หรือก้น ของตัวคนไข้
- สามารถปลูกถ่ายได้เลย
- อยู่ได้ถาวร
- ไม่ต้องฉีดซ้ำบ่อยๆ
- ราคาไม่ต่างกัน
- ฉีดได้ทุกช่วงอายุ
ที่อื่น
- ใช้วิธีดูดออกด้วยการใช้ท่อดูด
- ใช้วิธี Liposuction คือ การใช้ไขมันบริเวณต้นขา (เป็นการดูดเศษไขมันมาใช้ ซึ่งไม่มีประสิทธิภาพ เทียบเท่ากับการสกัดไขมัน Adipose Mesenchymal)
- มีปริมาณ Adipose Mesenchymal เพียงแค่ 1-2% เท่านั้น
- อยู่ได้แค่ระยเวลาสั้นๆ เพียง 4 – 6 เดือน
- อยู่ได้ไม่นาน
- ต้องฉีดซ้ำบ่อยๆ
- (เสริมข้อ 2) โดยการดูดไขมัน แล้วแยกเอาเนื้อไขมันออก เหลือแค่องค์ประกอบส่วนที่ไม่มีเซลล์ไขมัน ซึ่งเป็นวิธีที่ทำได้เฉพาะ ธีรพร ที่เดียว
รีวิว
สรุป
Adipose Mesenchymal เป็นเซลล์ต้นกำเนิดที่มีความสำคัญ ในการรักษาโรคและเสริมความงาม โดยสามารถนำมาใช้ในการฟื้นฟูเนื้อเยื่อ และกระตุ้นการสร้าง Growth Factor เพื่อให้ผิวดูสดชื่นและอ่อนเยาว์ขึ้น นอกจากนี้ เทคนิคการสกัด Adipose Mesenchymal ที่พัฒนาโดยหมอชลธิศ ยังช่วยแก้ไขปัญหาซิลิโคนทะลุ และฉีดให้ผิวเต่งตึงได้ทั่วใบหน้า ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เนื้อหาโดย
ผศ.นพ. ชลธิศ สินรัชตานันท์ (หมอชล)
ว.5863
- ศัลยแพทย์
- แพทยศาสตร์บัณฑิต ปี 2516 ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
- โสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา ปี 2519 คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
- ศัลยกรรมตา เสริมจมูกด้วยไขมัน และศัลยกรรมดึงหน้า Face-Lock
- นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งอาเซียน
- อาจารย์สอนทั้งในยุโรปอเมริกาและกลุ่มประเทศในเอเชีย
- ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอสเตติก คอนเนค (TRP)