fbpx

คุณหมอชลธิศ ต้นตำรับ หมอทำตาสองชั้น ของไทย

หมอชลธิศ สินรัชตานันท์

DR.CHOLADHIS SINRACHTANANT ,MD.

Head of TEERAPORN’s surgical and medical team

นายแพทย์ชลธิศ สินรัชตานันท์ คุณหมอทำตาสองชั้น ที่มีความเชี่ยวชาญมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเชี่ยวชาญ ด้านการศัลยกรรมตาสองชั้น เชี่ยวชาญการศัลยกรรมเสริมจมูกด้วยไขมัน (Fat Stemcell) และเชี่ยวชาญทางด้านการศัลยกรรมดึงหน้า Face-Lock, Face-Lift 

ดำรงตำแหน่งเป็น นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งอาเซียน อดีต นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าประเทศไทย ปัจจุบันได้รับเชิญให้เป็นอาจารย์พิเศษ สอนทั้งในยุโรป อเมริกา และกลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งญี่ปุ่น เกาหลี และจีน 

เป็นอาจารย์ ของคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล จบการศึกษา แพทยศาสตร์บัณฑิต ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล นอกจากนั้น คุณหมอเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน หู คอ จมูก ตา

หมอชลธิศ

รีวิว หมอชลธิศ

เส้นทางสู่หมอศัลยกรรมใบหน้า

คุณหมอ เกิดที่จังหวัดตาก เป็นบุตรคนที่ 4 จากพี่น้อง 5 คน ในอดีตวัยเด็กนั้น นายแพทย์ชลธิศเป็นคนที่ เรียนหนังสือไม่เก่ง สอบได้ที่สุดท้ายอยู่ทุกครั้ง แต่ก็ตัดสินใจมุมานะ เพราะต้องการจะสอบติดโรงเรียนเตรียมอุดมฯ ให้ได้แบบพี่ หลังจากนั้นก็สามารถสอบได้ที่ 1 มาโดยตลอด แต่ก็ไม่สามารถสอบติด

โรงเรียนเตรียมอุดมฯ ได้ นายแพทย์ชลธิศ เลยเข้าไปศึกษาที่โรงเรียนวัดบวรฯ เทอมแรกก็ได้ที่ 1 ของโรงเรียน ในอดีตนั้น คุณหมอได้ตั้งเป้าหมายว่า อยากเรียนวิศวกร แต่คุณแม่บอกว่าให้เรียนหมอดีกว่า เพราะถ้าแม่แก่แล้วจะได้ดูแลแม่ คุณหมอจึงเบนเข็ม มาเรียนทางด้านการแพทย์ที่มหาวิทยาลัยมหิดล 

และในปีสุดท้ายที่ต้องเลือกเรียนแพทย์เฉพาะทาง ในตอนแรกคุณหมออยากเป็นหมอสูติ เพราะชอบการผ่าตัด แต่สุดท้ายก็รู้สึกว่าไม่ใช่ทาง จึงตัดสินใจจะไปเรียนต่อที่อเมริกา แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ไป เพราะอเมริกาประกาศปิดรับหมอต่างชาติ แต่ก่อนหน้านี้ คุณหมอได้ทำการแลกแผนกกับเพื่อนที่อยู่ แผนก หู คอ จมูก แล้ว ทำให้คุณหมอได้ศึกษาอยู่ในแผนก หู คอ จมูก ที่โรงพยาบาลศิริราชมานับตั้งแต่นั้น

เส้นทางการเป็นศัลยแพทย์ของนายแพทย์ชลธิศนั้น เริ่มต้นมาจาก นายแพทย์เชิญ หัวหน้าแผนก หู คอ จมูก โรงพยาบาลศิริราช ที่เห็นนายแพทย์ชลธิศผ่าตัดมาเรื่อยๆ และได้แนะนำให้นายแพทย์ชลธิศ ไปเรียนทางด้านศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า เพื่อหวังจะให้นายแพทย์ชลธิศ มีวิชาที่สามารถผ่าตัดช่วยคนอื่นได้ นายแพทย์ขลธิศ เลยเริ่มศึกษาทางด้านศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า ที่โรงพยาบาลภูมิพล กับอาจารย์พลตรีทายาท สุขบำรุง ที่เพิ่งกลับมาจากการศึกษา ทางด้านศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าที่อเมริกาในสมัยนั้น

หมอชลธิศ สินรัชตานันท์ 1
หมอชลธิศ สินรัชตานันท์ 2
หมอชลธิศ สินรัชตานันท์ 3

ปี ค.ศ. 1980

นายแพทย์ชลธิศ เรียนทางด้านศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าได้ 2 ปี ก็ได้กลับมาเป็นศัลยแพทย์ และเป็นอาจารย์สอนให้กับรุ่นน้องในแผนกศัลยกรรม ที่โรงพยาบาลศิริราช ที่เป็นแผนกเปิดใหม่ ย่อยจากแผนก หู คอ จมูก โดยได้ทำการรักษาคนไข้ ควบกับการทำ Plastic Surgery 

โดยในสมัยนั้น การทำศัลยกรรม เป็นการรักษาโรคมากกว่าที่จะทำเพื่อความงาม น้อยคนนักที่จะเข้ามาทำ เพื่อความสวยงาม ซึ่งคุณหมอก็เก็บเกี่ยวประสบการณ์การผ่าตัด Plastic Surgery จากตรงนี้ โดยทำฟรีให้กับคนที่ต้องการเข้ามาทำ เพื่อเป็นกรณีศึกษาในการซ้อมมือ 

และสอนลูกศิษย์ไปในตัว หลังจากนั้นประมาณ 10 ปี วงการศัลยกรรมก็เปิดกว้างมากขึ้น มีผู้หญิงมาทำศัลยกรรมเยอะขึ้น ส่วนใหญ่ก็จะมาทำตาสองชั้น และเสริมจมูก จากที่เคยทำให้ฟรี ก็เริ่มมีการเก็บเงิน จาก 200 เป็น 2,000 โดยนำเงินนั้นไปช่วยคนไข้อนาถา และเอาไปช่วยทางด้านการศึกษา ซึ่งตลอดระยะเวลาที่นายแพทย์ชลธิศ 

ได้ผันตัวมาเป็นศัลยแพทย์ และมีโอกาสบินไปดูงาน ที่ต่างประเทศหลายต่อหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นที่ญี่ปุ่น อเมริกา เพื่อนำความรู้ มาปรับใช้ในการผ่าตัดของตัวเอง และนำความรู้มาเผยแพร่ต่อกับลูกศิษย์ ที่โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งนายแพทย์ชลธิศได้เห็นว่า วิชาการศัลยกรรมนั้น เป็นของถิ่นใครถิ่นมัน โครงสร้างของคนเราไม่เหมือนกัน ต้องคิดไป ทำไป และพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ

ปี ค.ศ. 2000

นายแพทย์ชลธิศ เคยผ่าตัดศัลยกรรมตาสองชั้นแบบกรีดยาว ซึ่งเป็นเทคนิคสมัยเก่า ส่วนใหญ่นั้น จะทำเพื่อรักษาคนไข้สูงอายุ ที่มีปัญหาโรคขนตาทิ่มตา น้ำตาไหลแฉะ ก่อนที่จะค่อย ๆ ลดขนาดแผลลงจนกลายเป็นจุดเล็กๆ 

และทำเพื่อเสริมความงามในปัจจุบัน จนสามารถเรียกได้ว่า นายแพทย์ชลธิศ เป็นหมอทำตาสองชั้น คนแรกของโลกที่คิดค้นเทคนิคการทำตาสองชั้น แบบเจาะรูเล็กๆ ที่เปลือกตา นอกจากเทคนิคการทำตาสองชั้นแบบเจาะรูที่เปลือกตาแล้ว 

การเสริมจมูกด้วยวิธีปลูกย้ายไขมัน นายแพทย์ชลธิศก็เป็นคนคิดค้นเทคนิคนี้ ซึ่งปลอดภัยกว่าการเสริมจมูกด้วยการฉีดซิลิโคนเหลว เพราะเคยรักษาคนไข้ ที่ไปฉีดซิลิโคนเหลวมาแล้ว กลายเป็นเนื้องอก ต้องทำการผ่าตัดขูดออก พอนำซิลิโคนเหลวออกจมูกก็บิดเบี้ยว 

นายแพทย์ชลธิศเลยคิดค้นเทคนิค ที่จะรักษาให้กับคนไข้ ให้จมูกกลับมามีสภาพเดิมที่ดีที่สุด จึงได้คิดค้นนำเอาไขมันจากตรงท้องมาใช้ที่จมูก จนทำให้คนไข้นั้นหายดี และกลายเป็นเทคนิคที่มีครั้งแรกในโลกอีกเหมือนกัน ที่นำเอาไขมันมาเสริมจมูก

นอกเหนือจากการผ่าตัดศัลยกรรมตาสองชั้น และเสริมจมูก นายแพทย์ชลธิศ ยังคิดค้นเทคนิคการผ่าตัด ศัลยกรรมดึงหน้าให้เต่งตึง หรือที่เรียกว่า Face Lock-Face Lift ที่นอกจากจะช่วยเรื่องความสวยความงามแล้วนั้น จุดกำเนิดมาจากที่นายแพทย์ชลธิศ ต้องการที่จะให้เป็นส่วนหนึ่งของการศัลยกรรม ของการรักษา

และช่วยฟื้นฟูความชรา เพราะเมื่อคนเราอายุมากขึ้นแล้ว ความหย่อนคล้อยก็จะมา มีร่องน้ำหมาก ที่จะทำให้น้ำลายออกมาตรงมุมปาก หรืออาจจะทำให้ขนตาบริเวณหางตาทิ่มตา เนื่องมาจากชั้นตาตก ทั้งหมดนี้ เป็นเพราะความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย เมื่อมีอายุที่เพิ่มมากขึ้น และความหย่อนคล้อย ซึ่งการทำศัลยกรรมดึงหน้านั้น

จะช่วยเปลี่ยนแปลง และช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ ซึ่งปัจจุบันศัลยกรรมดึงหน้า Face-Lock, Face Lift เป็นอีกหนึ่งการทำศัลยกรรม ที่ขึ้นชื่อของนายแพทย์ชลธิศเป็นอย่างมาก ผ่าตัดมาแล้วจนนับไม่ถ้วน อีกทั้งยังนำเอาความรู้ และประสบการณ์ในการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า ไปเผยแพร่ให้ศัลยแพทย์ทั่วโลก 

จึงได้รับเชิญให้เป็นอาจารย์ไปสอนทั้งในยุโรปอเมริกา และกลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งญี่ปุ่น เกาหลี และจีน อีกทั้งยังเป็นผู้คิดค้นเทคนิค การทำศัลยกรรมให้ตอบโจทย์กับทุกปัญหาการศัลยกรรมใบหน้า ให้ได้มาตรฐานอย่างมีคุณภาพ รวมถึงยังมีจิตใจที่ดูแลคนไข้ทุกคน เสมือนเป็นคนในครอบครัว 

มอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคนไข้ที่เข้ามาใช้บริการ และสังคม เพื่อเป็นแบบอย่างแก่จรรยาบรรณวงการศัลยแพทย์ในประเทศไทย ซึ่งสามารถตรสจสอบใบประกอบวิชาชีพแพทย์ ได้ที่เว็บไซต์ของแพทยสภา โดยสามารถกรอกชื่อ และนามสกุลคุณหมอ ได้โดยตรง

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ความงามมีอิทธิพลมากในบ้านเราอย่างมาก ทำให้มีหลายๆคลินิกเสริมความงาม เข้ามาเปิดกันมากขึ้น รวมทั้งธีรพรก็เช่นกัน เรื่องความงามและการศัลยกรรมในไทย ตอนแรกยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย อย่างทุกวันนี้ ซึ่งในเริ่มแรกนั้น ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศเกาหลี เวลาที่หลายๆ คน ดูซีรีย์เกาหลี ที่ดาราต่างก็ทำศัลยกรรมเติมแต่งใบหน้า ได้สวยหล่อเป๊ะกันทุกคน ทำให้เกิดความอยากสวยอย่างงามได้อย่างนั้นบ้าง 

แต่การจะบินไปทำศัลยกรรมที่เกาหลีโดยตรงนั้น มีค่าใช้จ่ายที่มากพอสมควร ทำให้หลายๆ คนถอดใจไปเลย แต่ว่าตอนนี้เมื่อหลายปีที่ผ่านมา ในไทยเราเอง ก็มีศัลยแพทย์ฝีมือดีที่เข้ามาเปิดคลินิกเสริมความงาม ที่สามารถช่วยเติมเต็มความฝันของใครหลายๆ คน ให้เป็นจริงได้ และฝีมือของศัลยแพทย์ของไทยเรา ก็สามารถทำให้สวยได้อย่างเกาหลีเช่นกัน ที่ธีรพรก็เป็นหนึ่งในสถาบัน ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ในบรรดาผู้ที่อยากทำศัลยกรรม 

ไม่ว่าจะผู้ที่ประสบปัญหาในเรื่องริ้วรอยมาก หรือน้อยเองก็ตาม เพราะด้วยประสบการณ์ของตัวคุณหมอเอง จากการคลุกคลีกับการศัลยกรรม และวงการศัลยกรรมมามากกว่า 30 ปี ทำให้เชื่อได้ว่า การทำศัลยกรรมของคุณหมอ และทีมศัลยแพทย์จะสามารถทำให้ใบหน้าออกมาสวยได้ดั่งใจหวังแน่นอน ทางธีรพรเองมีการให้บริการ ในเรื่องของความสวยความงาม เหมือนกันกับที่อื่นๆ เช่นการทำศัลกรรมปากกระจับ การเสริมจมูก เป็นต้น

แต่มีบางเทคนิค ที่มีเพียงธีรพรเท่านั้นที่สามารถทำได้ นั่นก็คือ การดึงใบหน้าให้กลับมากระชับเต่งตึง ดูอ่อนเยาว์ลงได้ด้วยระบบเฟสล็อค ซึ่งเทคนิคนี้เป็นการคิดค้นของคุณหมอชลธิศ และคณะทีมศัลยแพทย์ของคุณหมอ ดังนั้นในที่อื่น จะไม่มีการใช้เทคนิคนี้ได้อย่างแน่นอน เพราะเป็นเทคนิคเฉพาะของทางธีรพรเท่านั้น เทคนิคการดึงใบหน้า ให้กลับมากระชับเต่งตึงนี้ เป็นเทคนิคที่น่าสนใจมาก เพราะสามารถทำให้ใบหน้า ที่มีริ้วรอยเหี่ยวย่น 

และผิวหนังที่หย่อนคล้อยไปตามอายุ หรือจะริ้วรอยเล็กๆ น้อยๆ ต่างๆ บนใบหน้า สามารถทำให้กลับมากระชับเต่งตึง เหมือนสาวรุ่นๆ ได้อีกครั้ง ที่น่าตกใจก็คือ การทำศัลยกรรมใบหน้าด้วยเทคนิคของคุณหมอนี้ สามารถทำให้ใบหน้าดูเด็กลงได้มากถึง 10 ปีเลยทีเดียว ซึ่งเทคนิคล็อคใบหน้าด้วยเฟสล็อค ที่คุณหมอ และคณะศัลยแพทย์คิดค้นขึ้นมานี้จะมีด้วยกันถึง 7 ระบบ ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้ช่วยแก้ไขปัญหา ของแต่ละจุดบนใบหน้าได้อย่างครอบคลุม

บรรยายวิชาการ

เทคการดึงหน้า Face-Lock ที่ หมอ คิดค้น

1.เทคนิคการย้อนวัยด้วยการล็อคตา

เทคนิคการล็อคตาเทคนิคนี้ เป็นเทคนิคการผ่าตัดศัลยกรรมชั้นตาทั่วไป ที่อาจจะคล้ายกับคลินิกอื่นๆ แต่จะมีความแตกต่างกันอยู่ก็คือ ทางคลินิกจะไม่ตัดหนังที่ชั้นตาออก เพื่อให้หนังตาที่ทำไปแล้วดูเป็นธรรมชาติ ถือเป็นเทคนิคการศัลยกรรมชั้นตา ที่ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด

2.เทคนิคการล็อคคิ้ว

เทคนิคนี้ก็มีส่วนสำคัญที่คุณหมอเล็งเห็น และออกแบบมาเพื่อให้คิ้ว และดวงตา ได้สัดส่วนกันมากขึ้น โดยการล็อคคิ้วของหมอชลธิศนี้ จะเป็นการแก้ไข และยกกระชับคิ้วขึ้น เพื่อช่วยให้ทรงคิ้ว มีความได้สัดส่วนกับดวงตามากขึ้น ในบางคนที่มีหางคิ้วตก ด้วยเทคนิคการล็อคคิ้วนี้เอง ก็สามารถช่วยแก้ไขให้หางคิ้วเข้ารูปมากขึ้น ทำให้คิ้วและดวงตาดูสดใส และได้สัดส่วนรับกันมากขึ้น ช่วยเสริมโหงวเฮ้งให้กับใบหน้าได้อย่างง่ายๆ การล็อคคิ้วนี้สามารถช่วยให้แววตา และใบหน้าดูสดใสขึ้นได้อย่างมาก

3.เทคนิคการย้อนวัยบริเวณหางตา

เทคนิคนี้เป็นเทคนิคที่ช่วยให้หางตาดูกระชับขึ้น และดูสมส่วนมากขึ้น ในคนที่มีปัญหาหนังตาตก ข้อดีของการทำด้วยเทคนิคนี้คือ นอกจากจะช่วยยกกระชับดวงตาแล้ว ยังสามารถช่วยในเรื่องของริ้วรอย บริเวณดวงตาได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาตีนกา ปัญหาริ้วรอยใต้ตา ก็สามารถทำให้ริ้วรอยเหล่านี้ ดูจางลงได้ภายหลังจากการทำไปแล้ว เป็นอีกเทคนิคหนึ่งของคุณหมอชลธิศ ที่ถือเป็นข้อดีและมีผลพลอยได้ ที่ดีมากๆ ต่อผู้มารับบริการ

4.เทคนิคการล็อคขมับ

เทคนิคนี้เป็นเทคนิคที่ดีมากๆ อีกเทคนิคหนึ่ง ที่จะช่วยให้ใบหน้ากลับมาตึง กระชับได้อีกครั้งอย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากเทคนิคนี้ จะช่วยทำให้บริเวณขมับตึง กระชับขึ้นได้แล้ว ยังสามารถช่วยให้บริเวณส่วนใกล้เคียงอื่นๆ บนใบหน้ากระชับขึ้นไปได้อีกด้วย เช่น บริเวณหน้าผาก บริเวณหางตา บริเวณแก้ม สามารถกระชับขึ้นได้ จากการดึงรั้งขึ้นของขมับนี้ โดยเทคนิคนี้จะเป็นการล็อคในส่วนของขมับ ให้มีความเต่งตึงดูอ่อนเยาว์ขึ้น จึงทำให้ส่วนอื่นดูตึงกระชับขึ้นไปด้วยอย่างเป็นธรรมชาติ

5.เทคนิคการล็อคใบหน้าส่วนล่างหรือช่วงแก้มลงไป

เป็นอีกเทคนิคหนึ่งของคุณหมอชลธิศ ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ริ้วรอยส่วนนี้ กลับมาตึงกระชับได้อีกครั้งเช่นกัน โดยสามารถช่วยแก้ไขปัญหาในเรื่องของริ้วรอย บริเวณแก้ม ปากและคาง ซึ่งจะทำให้บริเวณนี้กลับมาเต่งตึงดังเดิม ริ้วรอยที่เกิดในบริเวณเหล่านี้ส่วนใหญ่ จะเกิดจากการแสดงอารมณ์ในแต่ละวัน หรือการที่ไม่บำรุงดูแลรักษาใบหน้าให้ดีเท่าที่ควร จึงทำให้ใบหน้าถูกทำร้าย ทั้งจากมลพิษและแสงแดด นอกจากนั้นการหัวเราะแล้วอ้าปากกว้าง การหาว การล้างหน้า หรือเช็ดหน้าแรงๆ ก็สามารถทำให้เกิดริ้วรอยเหล่านี้ได้ จึงได้ออกแบบให้เทคนิคนี้ สามารถเข้ามาช่วยกู้ให้ใบหน้า กลับมาเต่งตึงดังเดิมอีกครั้ง

6.เทคนิคการล็อคใบหน้าส่วนบน

หรือการล็อคทั้งใบหน้านั่นเอง โดยเทคนิคการล็อคทั้งใบหน้าของคุณหมอนี้ เป็นเทคนิคที่เหมาะอย่างมากกับผู้ที่มีริ้วรอยเยอะๆ อาจจะเป็นในผู้ที่มีริ้วรอยตามอายุ หรือในคนที่มีริ้วรอยมากก่อนวัยอันควร ก็ได้เช่นกัน โดยจะแก้ไขปัญหาในเรื่องของริ้วรอยเหล่านี้ ให้กลับมาเต่งตึง ช่วยย้อนวัยให้กับใบหน้า ให้ใบหน้าดูเด็กลงไปอีกถึง  10 ปี เสริมความมั่นใจของตัวผู้ทำ ให้กลับคืนมาอีกครั้ง

7.เทคนิคการล็อคลำคอ

เทคนิคนี้เป็นเทคนิคที่สามารถตอบสนองความต้องการของสาวๆได้อย่างมาก เพราะเมื่อคอเกิดริ้วรอยจะตามวัยหรือก่อนวัยก็ตาม ต่อให้ทาครีมหรือนวดกระชับผิวก็ไม่สามารถทำให้ลำคอกลับมาเต่งตังกระชับได้ดังเดิม แต่เทคนิคการล็อคลำคอของคุณหมอชลธิศนี้สามารถทำฝันของหลายๆคนให้เป็นจริงได้โดยไม่ต้องสิ้นเปลืองครีมอีกต่อไป เทคนิคนี้จะเข้ามาช่วยให้ลำคอกลับมาเต่งตึงกระชับได้อีกครั้ง

เทคนิคทั้ง 7 นี้ เป็นการออกแบบมาเพื่อการแก้ไขปัญหา ในแต่ละจุดได้อย่างดีและครบถ้วน ที่สำคัญไม่เพียงแต่การแก้ไขปัญหา ในแต่ละส่วนของตัวเอง แต่ยังสามารถช่วยให้ส่วนอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกลับมาดูตึงกระชับได้อีกด้วย ถือเป็นเทคนิคที่ทำเพียงจุดเดียว ก็ครอบคลุมได้หลายจุด เป็นเทคนิคของธีรพรโดยเฉพาะ ใช้เวลาเพียงไม่นาน ในการพักฟื้น ทำให้สามารถใช้ชีวิตภายหลังการทำได้อย่างปกติ  และที่สำคัญเทคนิคนี้ สามารถแก้ไขใบหน้า ให้กลับมาเต่งตึงได้จริง 

ประสบการณ์กว่า 30 ปีของคุณหมอ และรีวิวผลตอบรับที่ดีของลูกค้า ที่มารับบริการจึงมั่นใจได้เลยว่า หากผ่านมือคุณหมอ และทางทีมศัลยแพทย์ของทางธีรพรแล้ว คุณเองก็สามารถกลับมามีใบหน้าตึงกระชับ และดูอ่อนเยาว์ลงถึง 10 ปีได้เช่นกัน สำหรับผู้ที่สนใจเทคนิคการดึงใบหน้า ให้กลับมากระชับเต่งตึงของคุณหมอ สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวคุณหมอเอง หรือประวัติคลินิกอื่นๆ เพื่อการตัดสินใจในการรับบริการกับทางคลินิกได้ และสามารถดูรีวิวจากผู้มารับบริการจริงได้ที่ ช่อง YOTUBE และช่องทางโซเชียลมีเดียอื่นๆ ได้เลย

3 ศัลยกรรมยอดฮิต โดย คุณหมอ

ให้สัมภาษณ์รายการทีวี

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า