ริ้วรอย-ร่องลึก-cover

ริ้วรอยที่ตามมา เมื่ออายุขึ้นเลขสาม

ใครที่กำลังเข้าสู่วัย 30 ปีขึ้นไป เมื่อส่องกระจกแล้วอาจสัมผัสได้ถึงริ้วรอยบนใบหน้าตามจุดต่างๆ เช่น ใต้ตา หางตา หรือร่องแก้ม ผิวไม่เต่งตึงเหมือนวัยยี่สิบต้นๆ หรือบางคนอาจสังเกตว่า เมื่อเป็นสิว แผลสิวหายช้าและทิ้งจุดด่างดำไว้ สัญญาณเหล่านี้คือสัญญาณความแก่ชราของผิวคุณ ในแต่ละช่วงวัยผิวหนังมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง มาหาคำตอบกันได้จากบทความนี้

v lock
v lock

หน้าเหี่ยว มีริ้วรอย เกิดจากอะไร

ริ้วรอยบนใบหน้าและรอยเหี่ยวย่นเกิดจากปัจจัยภายใน คือ การเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของร่างกาย และปัจจัยภายนอกที่เกิดจากการใช้ชีวิตของเรา 

1. การเปลี่ยนแปลงของผิวตามธรรมชาติในแต่ละช่วงอายุ

  • อายุ 20+ เป็นช่วงที่ผิวหน้ายังสุขภาพดี  มีความชุ่มชื้น แต่หลังจากอายุ 25 ปีเป็นต้นไป ปริมาณเอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระจะเริ่มลดลง หากไม่บำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอจะเกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น
  • อายุ 30+ ในวัยนี้ผิวจะเริ่มเสื่อมสภาพลงอย่างเห็นได้ชัด ผิวหนังขาดความชุ่มชื้นและเริ่มอ่อนไหวต่อสิ่งเร้าภายนอกได้ง่าย ผิวเริ่มหยาบและหมองคล้ำเนื่องจากประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์ลดลง
  • อายุ 40+ วัยนี้เป็นวัยที่ผิวหนังเริ่มบางลง 1% ต่อปี ผิวหนังจะมีความยืดหยุ่นน้อยลง 2% ต่อปี เนื่องจากโปรตีนเส้นใยกลุ่มคอลลาเจนและอิลาสตินลงลด โปรตีนเส้นใยกลุ่มนี้ทำหน้าที่ช่วยพยุงโครงสร้างของผิวหนังให้ผิวหนังเต่งตึง เมื่อคอลลาเจนและอิลาสตินลดลงผิวหนังจะเริ่มเหี่ยวย่นและหย่อนคล้อย  นอกจากนี้วัย 40+ ผิวจะแห้งและปรากฎรอยด่างดำบนใบหน้า
  • อายุ 50+ เป็นวัยที่เข้าสู่ช่วงวัยทอง สิ่งสำคัญที่ส่งผลต่อผิวคือการลดลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนในผู้หญิงและโปรเจสเตอโรนในผู้ชาย โดยเฉพาะในผู้หญิงเพราะเอสโตรเจนมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มความชุ่มชื้นและปริมาณคอลลาเจน หากฮอร์โมนลดลงก็จะทำให้ผิวหนังแห้ง บาง คอลลาเจนลดลง ผิวหนังจึงสูญเสียความเต่งตึงและหย่อนคล้อยมากขึ้น

2. ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต นอน อาหาร ออกกำลังกาย

นอกจากการปัจจัยข้างต้นแล้ว ปัจจัยภายนอกอื่นๆ ก็ทำร้ายผิวหนังของเราได้เช่นกัน โดยเฉพาะวัยทำงานที่ต้องโหมงานหนักทำให้ลืมดูแลตัวเอง ชีวิตการทำงานทำให้มีไลฟ์สไตล์ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวมรวมไปถึงสุขภาพผิว เช่น การพักผ่อนไม่เพียงพอ เข้านอนดึกเกินไป ไม่ออกกำลังกาย มีภาวะเครียดสะสม ดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ การใช้ครีมบำรุงผิวและครีมกันแดด รวมไปถึงปัจจัยที่เราควบคุมได้ยากอย่างรังสีอัลตราไวโอเลต มลภาวะ ฝุ่น และ สิ่งสกปรกที่มากับอากาศ ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ทำให้ผิวขาดน้ำ ผิวแห้ง และกลับมามีสุขภาพดีได้ยาก นอกจากนี้ยังเอื้อให้เกิดอนุมูลอิสระได้ง่ายอีกด้วย

เมื่อริ้วรอยถามหา ให้การดึงหน้าเป็นคำตอบ

การบำรุงผิวหน้ามีสุขภาพดีอยู่เสมอนั้นทำได้หลายวิธี ทั้งการปรับวิถีชีวิต ปรับเวลานอน เลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพผิว และหมั่นออกกำลังกาย รวมไปถึงหมั่นใช้ครีมกันแดดและครีมบำรุงผิวอยู่เสมอ การดูแลผิวด้วยวิธีดังกล่าวเป็นการดูแลผิวในเบื้องต้น อาจให้ผลช้า และอาจต้องประสบปัญหาผิวเหี่ยวย่นมีริ้วรอยอยู่เรื่อยๆ

การศัลยกรรมยกกระชับใบหน้าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะมาช่วยแก้ไขปัญหานี้ การผ่าตัดดึงหน้านั้นถือเป็นการดูแลสุขภาพผิวหน้าอย่างหนึ่ง ช่วยให้หน้าของเราตึงกระชับไปได้นานหลายปี

นวัตกรรมการผ่าตัดดึงหน้านั้นก้าวไกลกว่าสมัยก่อนมาก จากแต่เดิมที่ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องเตรียมตัวนาน ใช้เวลาพักฟื้นหลายสัปดาห์  และต้องเจอกับความเสี่ยงสูงขณะผ่าตัด ปัจจุบันการผ่าตัดดึงหน้ามีเทคนิคใหม่ๆ ที่ช่วยลดความเสี่ยงของการผ่าตัด ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน หากใครอยากมีใบหน้าที่ตึงกระชับ ดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ การผ่าตัดดึงหน้าก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม

อ้างอิง:

http://academic.obec.go.th/textbook/web/images/book/1003213_example.pdf

https://www2.mtec.or.th/th/e-magazine/admin/upload/298_21.pdf

https://www.intouchcompany.com/ks/learning/dec_1.pdf

https://www.pharmacy.mahidol.ac.th/knowledge/files/0200.pdf


News