เสกหน้าเด็กดั่งใจ! ด้วยการศัลยกรรมดึงหน้า

เมื่ออายุมากขึ้น ปัญหาที่ตามมาก็คงหนีไม่พ้นริ้วรอย ความหย่อนคล้อย และความไม่กระชับของผิวหน้า มาสัมผัสความอ่อนเยาว์กว่าที่เคยด้วยการศัลยกรรมดึงหน้า ซึ่งเป็นการผ่าตัดดึงเอาหนังส่วนเกินออก เพื่อทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และกระชับเต่งตึงจนคุณสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลง

สำหรับใครที่กำลังมองหาคลินิกดี ๆ หรือไม่รู้ว่าควรเลือกดึงหน้าที่ไหนดี ลองมาทำความรู้จักกับการศัลยกรรมดึงหน้า รวมถึงการเตรียมตัวและการดูแลตัวเองหลังศัลยกรรมก่อนตัดสินใจเลือกใช้บริการกัน

1. ดึงหน้าจุดไหนช่วยเรื่องอะไร

การศัลยกรรมดึงหน้าหรือ FACE-LOCK เป็นวิธีการที่สามารถช่วยลดอายุได้อย่างดีและตรงจุด อีกทั้งยังได้รับความนิยมสูงด้วย เนื่องจากสามารถแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยหรือริ้วรอยที่มีมากบนใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยปัจจุบันเทคนิคการผ่าตัดศัลยกรรมใบหน้าทำได้ง่ายขึ้น และสามารถลดอายุใบหน้าได้เป็น 10 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพื้นฐานของใบหน้าแต่ละบุคคลด้วย ซึ่งการศัลยกรรมสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ส่วน ดังนี้

• การดึงหน้าส่วนบน (Baby Facelock)

เป็นการศัลยกรรมบริเวณช่วงแถบตาทั้งหมด คือ ยกคิ้ว ยกหางตา ยกขมับ ปรับรูปตา โดยจะทำการดึงใบหน้าในชั้นกล้ามเนื้อที่อยู่ลึกที่สุดหรือ SMAS ช่วยแก้ปัญหาความเหี่ยวย่นและหย่อนคล้อยของใบหน้าช่วงบนได้ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ แถมยังเห็นผลลัพธ์ยาวนานอีกด้วย

• การดึงหน้าส่วนล่าง (V Lock)

เป็นการศัลยกรรมบริเวณใบหน้าช่วงล่าง ช่วยแก้ปัญหาเรื่องแก้มหย่อนคล้อย บริเวณร่องน้ำหมาก และเหนียงใต้คาง ซึ่งเป็นการช่วยยกกระชับในบริเวณใบหน้าช่วงล่างได้เป็นอย่างดี

• การดึงคอ

เป็นการศัลยกรรมดึงเหนียงคอ โดยการผ่าตัด ดึงให้ผิวหนังกระชับ และเย็บผิว เหมาะกับผู้ที่ร่างกายสร้างคอลลาเจนไม่เพียงพอต่อความต้องการอย่างผู้ที่เริ่มมีอายุมากขึ้น รวมทั้งยังเหมาะกับผู้ที่ลดน้ำหนักเร็วเกินไปจนทำให้ผิวหนังไม่กระชับด้วย

2. ศัลยกรรม FACE-LOCK เหมาะกับใครบ้าง

• ผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป และประสบปัญหาความหย่อนคล้อยและไม่กระชับของผิวหนัง
• ผู้ที่มีปัญหาเรื่องรอยเหี่ยวย่นบนผิวหน้า มีตีนกา มีร่องแก้ม หรือมีปัญหาหางตาไม่เท่ากัน
• ผู้ที่มีหนังตาตกหรือมีผิวหย่อนคล้อยบริเวณรอบดวงตา
• ผู้ที่มีปัญหาเรื่องแก้มห้อย แก้มย้อย หรือแก้มไม่เท่ากัน
• ผู้ที่ค้นพบว่าการฉีดฟิลเลอร์หรือร้อยไหมเพื่อทำให้หน้าดูกระชับและเด็กลงไม่ตอบโจทย์หรือไม่เหมาะสมกับปัญหาที่ตัวเองเผชิญ
• ผู้ที่มีเวลาในการพักฟื้นน้อย
• ผู้ที่น้ำหนักตัวลงอย่างรวดเร็ว จนทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย ไม่กระชับ
• ผู้ที่ต้องการดูแลตัวเองให้ดูดีและอ่อนเยาว์อยู่ตลอดเวลา
• ผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ยาวนาน ไม่ต้องทำหรือเติมบ่อย ๆ

3. การเตรียมตัวก่อนทำศัลยกรรม FACE-LOCK

• การรับประทานอาหาร

ควรงดน้ำงดอาหารก่อนการผ่าตัดศัลยกรรมอย่างน้อย 6 – 8 ชั่วโมง

• การดูแลตัวเอง

ควรสระผมโดยไม่ใช้ครีมนวดผมและทำความสะอาดร่างกายให้เรียบร้อย ก่อนวันนัดทำศัลยกรรมดึงหน้า ที่สำคัญควรงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 สัปดาห์ด้วย

• การรับประทานยาและอาหารเสริม

ควรงดการรับประทานยาและอาหารเสริม เช่น ยากลุ่มยาแก้ปวด คอลลาเจน วิตามิน และยาสมุนไพรต่าง ๆ ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด ในกรณีผู้ที่ทานยาที่ยับยั้งการแข็งตัวของเลือด ควรปรึกษาแพทย์ผู้รักษาหรือจ่ายยาก่อน ส่วนผู้ที่ทานยารักษาความดันและเบาหวาน ยังสามารถรับประทานยาได้ตามปกติ

• โรคประจำตัว

ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดัน เบาหวาน ไทรอยด์ สามารถทำผ่าตัดศัลยกรรมได้ แต่จำเป็นต้องควบคุมโรคให้อยู่ในภาวะปกติ ไม่กำเริบให้ได้ และที่สำคัญไม่ควรทำการผ่าตัดในช่วงที่เจ็บป่วย หรือมีการติดเชื้อบริเวณผิวหนังที่จะทำการผ่าตัด ส่วนผู้ที่ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด จะไม่สามารถเข้ารับการผ่าตัดดึงหน้าได้ เพราะถือเป็นโรคต้องห้าม

4. การดูแลตัวเองหลังทำศัลยกรรม FACE-LOCK

• การดูแลแผลผ่าตัด อาการบวมและช้ำ

หลังผ่าตัดช่วง 48 ชั่วโมง ควรเป็นเวลาสำหรับพักฟื้น โดยสามารถประคบเย็นบริเวณรอบ ๆ แผลผ่าตัดเพื่อลดอาการบวมและช้ำได้บ่อยตามความต้องการ เมื่อเกิน 48 ชั่วโมงไปแล้ว ให้ประคบเย็นสลับประคบอุ่น ซึ่งสามารถทำได้จนถึง 2 สัปดาห์หลังจากผ่าตัด

ในกรณีที่ใช้ไหมละลายในการศัลยกรรม ไหมจะสามารถละลายไปเองได้ใน 1 – 2 เดือน แต่หากเป็นไหมไม่ละลาย สามารถไปตัดไหมได้ประมาณ 5 – 7 วันหลังการผ่าตัด การทำความสะอาดใบหน้าสามารถทำได้ปกติ เพียงแต่ต้องระวังไม่ให้แผลโดนน้ำ เพราะจะทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ 

สำหรับวิธีการดูแลแผลผ่าตัดนั้น ให้ใช้ไม้พันสำลีชุบน้ำเกลือเช็ดแผลและบริเวณรอบ ๆ แผล เพื่อเป็นการทำความสะอาดคราบต่าง ๆ บนผิวหนัง จากนั้นให้ทาครีมฆ่าเชื้อที่ทางคลินิกเตรียมไว้ให้ เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้แผล โดยต้องทำวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็นหลังการอาบน้ำ

• การใช้ชีวิตประจำวัน

ในช่วง 2 – 3 วันแรกหลังการผ่าตัด ควรหลีกเลี่ยงการยกของหนัก และหลังจาก 1 สัปดาห์ไปแล้วสามารถออกกำลังกายเบา ๆ ได้ ส่วนการใช้ชีวิตประจำวัน สามารถทำกิจวัตรและทำกิจกรรมได้ตามปกติ เพียงแต่ต้องเพิ่มความระมัดระวังไม่ให้กระแทกบริเวณที่ผ่าตัด ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ด้วย

• การรับประทานอาหาร

สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ แต่ควรหลีกเลี่ยงอาหารหนัก ๆ หรือต้องใช้แรงบดเคี้ยวมาก เพื่อป้องกันไม่ให้แผลถูกกระทบกระเทือน ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการรับประทานของหมักดอง เพราะมีผลต่อการหายของแผล

• การดูแลแผลเป็น

ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดจัด ๆ อย่างแดดในช่วงเวลากลางวัน ที่สำคัญควรระมัดระวังไม่ทำสิ่งที่จะก่อให้เกิดการระคายเคืองบริเวณแผลผ่าตัดศัลยกรรม เพราะจะส่งผลต่อการหายนั่นเอง

สำหรับผู้ที่สนใจการทำ FACE-LOCK หรือลังเลว่าควรดึงหน้าที่ไหนดี ธีรพรคลินิกเป็นผู้เชี่ยวชาญในการศัลยกรรมใบหน้า และมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในแต่ละด้านเพื่อให้บริการและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้คุณอย่างตรงจุด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-026-3265