ยกกระชับใบหน้า

6 ท่าบริหารใบหน้า

หน้าสวย อ่อนวัยได้ง่ายๆด้วยการ ยกกระชับใบหน้า โดยวิธีการต่อไปนี้

เมื่ออายุย่างเข้าเลข 30+ ใบหน้าก็จะเริ่มมีริ้วรอยจากการใช้งานหนัก ไม่ว่าจะเป็นการแสดงอารมณ์ในแต่ละวัน การหัวเราะ การขมวดคิ้ว การยิ้มหรืออะไรก็ตามที่เป็นการใช้ใบหน้า ล้วนทำให้เกิดริ้วรอยได้ทั้งสิ้น จะดีไหมถ้าหากสามารถย้อนวัยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลงได้ด้วยการ ยกกระชับใบหน้า ซึ่งในสมัยนี้สามารถทำได้แล้วด้วยเทคนิคใหม่ๆที่คิดค้นกันขึ้นมา ซึ่งอาจจะเป็นการใช้อุปกรณ์ที่คิดค้นเพื่อทำให้ใบกระชับขึ้นโดยเฉพาะ การทาครีมที่ช่วยกระชับใบหน้าให้เต่งตึง การเข้าคอร์สกระชับใบหน้ากับทางคลินิก หรือจะเป็นการออกกำลังกายด้วยท่าบริหารใบหน้าอย่างง่ายๆ ล้วนคิดกันขึ้นมาเพื่อช่วยให้ใบหน้าที่มีริ้วรอยหรือหย่อนคล้อยกระชับขึ้น ซึ่งบางครั้งอาจมีการใช้ครีมที่ช่วยให้ใบหน้าเต่งตึงร่วมกับการบริหารกล้ามเนื้อใบหน้าด้วยเช่นกัน การบริหารใบหน้าด้วยเทคนิคเหล่านี้นั้นได้ผลดีจริงๆ จากใบหน้าที่หย่อนคล้อยตามวัย ริ้วรอยร่องลึกตามร่องแก้มจากการยิ้มหรือหัวเราะในระหว่างวัน ตรงระหว่างคิ้วที่เกิดจากการขมวดคิ้ว หรือจะเป็นหางตา เทคนิคเหล่านี้สามารถช่วยให้มีริ้วรอยที่จางลงและใบหน้ากระชับขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ยกกระชับใบหน้า

ใครจะเชื่อว่าเพียงการทาครีมและบริหารใบหน้าจะสามารถยกกระชับใบหน้าให้แลดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ การยกกระชับเหล่านี้สามารถศึกษาและทำได้ง่ายๆในแต่ละวัน หรือเมื่อนึกถึงก็สามารถทำได้เลย โดยเฉพาะการออกกำลังกายให้ใบหน้าด้วยท่าเฉพาะสำหรับการบริหารกล้ามเนื้อใบหน้า หลายคนอาจจะรู้จักกันอยู่แล้ว นั้นก็คือการโยคะใบหน้า ซึ่งการโยคะนี้ก็คือการออกกำลังกายใบหน้าด้วยท่าโยคะที่เหมาะกับใบหน้านั่นเอง ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้ใบหน้าได้เพิ่มความยืดหยุ่น ทำให้กล้ามเนื้อส่วนของใบหน้ามีการขยับตัวมากขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่ส่วนที่ใช้บ่อยๆเท่านั้น การบริหารได้ครบทุกส่วนนี้จะช่วยให้กล้ามเนื้อมีความสมดุล จะทำให้แต่ละส่วนของใบหน้ามีความแข็งแรงและตึงขึ้น ใบหน้าจึงดูกระชับขึ้นนั่นเอง การออกกำลังกายให้ใบหน้ากระชับเต่งตึงขึ้นนี้ มีด้วยกันถึง 6 ขั้นตอน สามารถปฏิบัติได้ง่ายมากๆ ดังนี้

 

1.ก่อนการเริ่มบริหารใบหน้าในแต่ละส่วนนี้ ก่อนอื่นให้เราวอร์มกล้ามเนื้อใบหน้าก่อน ด้วยการคลึงใบหน้า วนๆไปมารอบๆใบหน้าทุกส่วน เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อของใบหน้าผ่อนคลายตัวและสามารถยืดหยุ่นได้ดี รองรับในการขยับใบหน้าด้วยท่ายกกระชับใบหน้าใบหน้าในแต่ละท่าต่อไป

ยกกระชับใบหน้า

 

2.ท่าดูดแก้ม ทำปากจู๋ ท่านี้สามารถทำได้โดยดูดกระพุ้งแก้มเข้าไป แล้วค้างไว้อยู่นั้นแล้วนับ 1 – 30 แล้วก็คลายใบหน้าดังเดิม หลังจากนั้นทำแก้มป่องต่อแล้วค้างไว้พร้อมกับนับ 1-30 พอครบแล้วปล่อยลงออกจากปาก ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ อย่างละ 3 รอบ ก็เป็นอันเสร็จ ท่านี้จะช่วยกระชับใบหน้าให้ริ้วรอยช่วงแก้ม หรือแก้มที่หย่อนคล้อยกระชับขึ้นได้ เมื่อทำบ่อยๆอย่างเป็นประจำทุกวัน

ยกกระชับใบหน้า

 

3.ท่าปากจู๋สลับกับการแบะปากไปด้านข้าง ท่านี้เป็นท่าบริหารใบหน้าที่ดีท่าหนึ่งเลยทีเดียว โดยการทำปากจู๋ไปข้างหน้าให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ สลับกับการแบะปากไปด้านข้างให้มากที่สุดเช่นกัน ทำสลับไปมาสัก 3 ครั้ง จะรู้สึกได้ว่าใบหน้ามีอาการล้าๆ จากการบริหารใบหน้าด้วยท่านี้

ยกกระชับใบหน้า

 

4.ท่าแลบลิ้น ท่านี้ให้เราพยายามแลบลิ้นออกมาแล้วค้างไว้อย่างนั้นสัก 10 วิ แล้วคลายออก พยายามแลบลิ้นออกมาให้ได้มากที่สุดอาจจะลำบากสักนิดหนึ่ง แต่ผลที่ได้คุ้มค่ามาก ท่านี้จะช่วยยกกระชับใบหน้าได้ดีมากๆในส่วนของร่องแก้ม แล้วริ้วรอยบริเวณรอบๆปาก

ยกกระชับใบหน้า

 

5.ท่าบริหารระหว่างคิ้ว และหน้าผาก วิธีการบริหารคือ ให้กางนิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนางออก ทั้งสองมือ นำนิ้วมาวางลงที่คิ้วทั้งสองข้าง แล้วดันคิ้วขึ้นไปด้านบน หลังจากนั้นให้ค้างนิ้วไว้อย่างนั้นสัก 15-30 วิ ทำอย่างนี้สัก 3 รอบ เมื่อทำท่านี้บ่อยๆจะช่วยกระชับใบหน้าให้เต่งตึงและทำให้ริ้วรอยส่วนระหว่างคิ้วและหน้าผากค่อยๆดีขึ้น กระชับขึ้น

ยกกระชับใบหน้า

 

6.ท่ากระชับคอ ท่านี้ทำได้โดย เงยหน้าขึ้นให้มากที่สุดพร้อมกับเชิดริมฝีปากขึ้นไปหาจมูก เกร็งไว้อย่างนั้นสัก 10 วิ แล้วก้มหน้าลงตามเดิม ทำแบบนี้สัก 3 – 5 รอบ ท่ากระชับคอนี้จะช่วยให้กล้ามเนื้อส่วนคอได้ขยับมากขึ้น จึงทำให้กระชับแล้วกล้ามเนื้อคอไม่หย่อยคล้อย หรืออาจใช้ในคนที่มีเหนียงคอก็ได้เช่นกัน

ยกกระชับใบหน้า

เมื่อเข้าใจวิธีการออกกำลังกายให้ใบหน้าด้วยท่าโยคะเหล่านี้แล้ว และลองทำตามท่ายกกระชับใบหน้าต่างๆนี้ในแต่ละวัน รับรองว่าใบหน้าจะกลับมากระชับขึ้นแน่นอน ในระหว่างช่วงที่กำลังจะทำการออกกำลังกายให้กับใบหน้านั้น อาจจะมีการท่าครีมที่ช่วยให้ใบหน้าเต่งตึงร่วมด้วย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกระชับใบหน้าให้เห็นผลมากยิ่งขึ้นไปอีก โดยครีมที่ช่วยกระชับใบหน้านั้นก็หาซื้อได้ง่าย มีขายตามร้านเครื่องสำอางในห้างทั่วไปสามารถเลือกซื้อเลือกใช้ตามชอบได้เลย

 

สำหรับใครที่มีปัญหาในเรื่องใบหน้าหย่อนคล้อยมาก ทำแล้วได้ผลช้าและมองหาวิธีที่เห็นผลรวดเร็วกว่าการบริหารใบหน้าด้วยท่าโยคะนี้ก็ยังมีทางเลือกอื่นคือ การใช้เทคโนโลยีใหม่ๆในการกระชับใบหน้าให้เต่งตึงขึ้นซึ่งก็เห็นผลดีเช่นกัน แต่ก็ต้องแลกมากับค่าใช้จ่ายที่จะต้องเสียไป แต่ยังไงก็ถือว่าคุ้มค่าหากว่าเห็นผลจริง ซึ่งก็มีด้วยกัน 3 แบบคือ  

1.การเลเซอร์กระชับใบหน้า การใช้วิธีการเลเซอร์นี้จะเป็นการยิงเลเซอร์เข้าไปภายในช่องปาก ทำให้ไม่เกิดแผลบนใบหน้าหลังการทำ จึงสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ไม่ต้องอายเมื่อออกจากคลินิกไป โดยจะไปกระตุ้นให้ชั้นผิวส่วนที่ต้องการแก้ไข เกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาทดแทน ทำให้ผิวดูเต่งตึงเรียบเนียน ริ้วรอยร่องลึกตามจุดต่างๆดูตื้นขึ้น กระชับขึ้น การยกกระชับใบหน้าด้วยวิธีการนี้เป็นวิธีที่ได้ผลและเห็นผลหลังจากทำ เจ็บตัวน้อย ที่สำคัญไม่มีแผลปรากฏบนใบหน้าหลังจากทำเสร็จ

ยกกระชับใบหน้า

 

2.การกระชับใบหน้าด้วยคลื่นวิทยุ อาจจะฟังดูแปลกๆ แต่สามารถทำแล้วได้ผลจริง การกระชับใบหน้าด้วยคลื่นวิทยุนี้เป็นการทำโดยการปล่อยคลื่นความร้อนผ่านคลื่นวิทยุไปสู่ชั้นผิวที่มีปัญหา โดยจะไปกระตุ้นให้ชั้นผิวเกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นมา จึงทำให้ใบฟู เต่งตึงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สามารถสังเกตได้ว่าใบหน้ากระชับเต่งตึงขึ้นจริงและจะเห็นผลขึ้นไปอีกภายใน 3 เดือนหลังการทำที่สำคัญเมื่อทำไปแล้วสามารถมีใบหน้าที่เต่งตึงได้ยาวนานถึงประมาณ 1 ปี เลยทีเดียว

ยกกระชับใบหน้า

 

3.การกระชับใบหน้าด้วยคลื่นเสียง เป็นการทำโดยวิธีการส่งคลื่นความถี่สูงไปยังชั้นผิวต่างๆ ซึ่งช่วยกระตุ้นให้ผิวหนังและชั้นผิวเกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นมา จึงทำให้ริ้วรอยบนใบหน้าดูเต่งตึงและเรียบเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งการทำด้วยวิธีนี้สามารถเห็นผลที่ดีขึ้นได้เลยหลังจากการทำ ซึ่งสามารถเห็นผลที่ชัดขึ้นไปอีกได้ ภายใน 3 เดือน

ยกกระชับใบหน้า

จะเห็นได้ว่า ทั้ง 3 วิธีนี้ล้วนแต่ออกแบบมาเพื่อการกระตุ้นให้ชั้นผิวต่างๆที่มีปัญหาในเรื่องใบหน้าหย่อนคล้อยและส่วนต่างๆของใบหน้าที่มีริ้วรอยเกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาทดแทนจากการเข้าไปกระตุ้น ให้ผิวถูกทำร้ายแล้วต้องซ่อมแซมตนเอง ซึ่งทั้ง 3 วิธีนี้ก็เห็นผลได้จริงภายหลังจากการทำ โดยจะเหมาะกับคนที่เมื่อออกกำลังกายด้วยท่าโยคะยกกระชับใบหน้าในเบื้องต้นแล้วไม่เห็นผล หรือเห็นผลช้านั่นเอง

การยกกระชับใบหน้าเหล่านี้สามารถทำและเห็นผลได้ดีทั้งกับคนที่มีปัญหาในริ้วรอยน้อยไปจนถึงมาก โดยสามารถนำมาเลือกใช้ให้กับสภาพปัญหากันได้เลย ในคนที่เพิ่งเริ่มมีปัญหาริ้วรอยอาจใช้เป็นวิธีโยคะใบหน้าแทน ส่วนคนที่มีปัญหาริ้วรอยร่องลึกมากอาจเลือกเป็นการเลเซอร์ หรือเทคนิคอื่นๆตามแต่คลินิกที่ตนสนใจจะให้บริการต่อไป ทั้งนี้ทั้งนั้นควรดูแลเอาใจใส่ผิวหน้าให้ดีก่อนที่จะสายเกินไปจะดีที่สุด

News