เสริมจมูก-ที่-ธีรพร-คลินิก

เสริมจมูกแบบ Close และแบบ Open ต่างกันอย่างไร เหมาะกับใครบ้าง

ในปัจจุบัน การทำจมูกถือได้ว่าเป็นหนึ่งในศัลยกรรมใบหน้าที่ได้รับความนิยมสูงสุดโดยเฉพาะ ในกลุ่มคนหนุ่มสาว ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปมาก ทำให้รูปทรงของจมูกที่สามารถเลือกเสริมได้นั้นมีหลายรูปแบบ จมูกแต่ละทรงย่อมใช้เทคนิคในการทำที่แตกต่างกัน วันนี้เราจะมาทำความรู้จักการทำจมูกแบบปิด (Close-Technique) และการทำจมูกแบบเปิด (Open-Technique) เพื่อประกอบการตัดสินใจในการทำจมูก

การเสริมจมูกแบบเปิด (Open-Technique)

การทำจมูกแบบเปิด คือการใช้เทคนิคผ่าตัดแบบเปิดผิวหนังบริเวณฐานที่ปลายรูจมูกทั้ง 2 ด้านแล้วดึงเปิดขึ้นเพื่อให้เห็นโครงสร้างภายในจมูก ทำให้แพทย์สามารถวิเคราะห์ปัญหาและแก้ไขทรงจมูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อดีของการทำจมูกแบบเปิด

เนื่องจากการทำจมูกด้วยเทคนิคผ่าตัดแบบเปิดช่วยทำให้แพทย์เห็นโครงสร้างภายในจมูกอย่างชัดเจน เทคนิคนี้จึงสามารถทำให้ปลายจมูกเป็นรูปทรงตามต้องการได้ดีกว่า และยังลดการเกิดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น จมูกทะลุ ซิลิโคนขยับ รูปทรงจมูกเอียด บิดเบี้ยว เป็นต้น

ข้อเสียของการทำจมูกแบบเปิด

เนื่องจากเทคนิคนี้จะผ่าตัดผิวหนังบริเวณฐานปลายจมูก จึงถือเป็นการผ่าตัดใหญ่ แผลจะใช้เวลาฟื้นตัวช้า อาจทำให้รู้สึกปวดบวมบริเวณผ่าตัดได้นานกว่า 7 วัน และก่อให้เกิดรอยแผลเป็นหลังจากการผ่าตัดทำจมูก ซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลาในการดูแลตัวเองนานระยะหนึ่งรอยแผลจึงจะจางหาย 

การทำจมูกด้วยเทคนิคแบบเปิดเหมาะกับใคร

1. ผู้ที่มีจมูกสั้น 

เนื่องจากมีโอกาสเสี่ยงซิลิโคนทะลุได้ง่าย การใช้เทคนิคผ่าตัดแบบเปิดจะช่วยให้แก้ไขปัญหารูปทรงจมูกได้ตรงจุดและทำจมูกได้มีประสิทธิภาพ ช่วยลดความเสี่ยงได้ อีกทั้งจะทำให้รูปทรงปลายจมูกที่แก้ไขแล้วกลมมน ได้รูปทรงที่ดูดีตามต้องการได้อีกด้วย

2. ผู้ที่ต้องการแก้ไขทรงจมูกหรือรูปทรงมีปัญหา 

หากมีปัญหาเนื้อจมูกบาง ซิลิโคนเบี้ยว ซิลิโคนจะทะลุและต้องการที่จะแก้ไข การผ่าตัดด้วยเทคนิคแบบเปิดจะช่วยรักษาเนื้อปลายจมูกเอาไว้ได้ ลดโอกาสซิลิโคนทะลุออกมาในภายหลัง

3. ผู้ที่แก้จมูกบ่อยครั้ง 

เนื่องจากการแก้หรือทำจมูกหลายครั้งจะทำให้เกิดพังผืดสะสมได้ หากจะแก้ไขจมูกหรือทำจมูกในครั้งถัดไป ต้องขูดพังผืดเหล่านี้ออกก่อน การผ่าตัดเปิดผิวหนังจะช่วยให้แพทย์ขูดพังผืดได้ง่ายขึ้นและแก้ไขรูปทรงจมูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การเสริมจมูกแบบปิด (Close-Technique)

การทำจมูกแบบปิด คือการผ่าตัดเปิดแผลบริเวณด้านในรูจมูก สามารถเปิดได้ด้านเดียว หรือ ทั้ง 2 ข้างของรูจมูก แล้วทำการใส่ซิลิโคนไปในตำแหน่งที่ต้องการ วิธีนี้ได้รับความนิยมเนื่องจากแผลมีขนาดเล็กและแทบจะไม่เห็นรอยแผลผ่าตัดหลังมำจมูกแล้ว

ข้อดีของการทำจมูกแบบปิด

การทำจมูกด้วยเทคนิคผ่าตัดแบบปิดจะช่วยซ่อนรอยแผลจากการผ่าตัดได้แนบเนียนกว่า และการดูแลรักษาแผลก็ง่ายกว่าด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังใช้เวลาในการผ่าตัดไม่นาน และแผลผ่าตัดบวมช้ำน้อย ฟื้นตัวได้เร็ว

ข้อเสียของการทำจมูกแบบปิด

ปัญหาซิลิโคนทะลุ จมูกบิดเบี้ยว ซิลิโคนเคลื่อนที่ มีโอกาสเกิดขึ้นได้ และเนื่องจากแพทย์ไม่ได้ทำการผ่าตัดเปิดผิวหนังบริเวณจมูก จึงทำให้ไม่สามารถเห็นโครงสร้างจมูกได้ชัดเจน การทำจมูกแบบที่ต้องปรับแต่งรูปทรงปลายจมูกจึงทำได้ยากหากเลือกทำจมูกด้วยเทคนิคผ่าตัดแบบปิด

การทำจมูกแบบปิดเหมาะกับใคร

1. ผู้ที่ต้องการเสริมแค่ซิลิโคน ไม่จำเป็นต้องปรับโครงสร้างจมูก 

สำหรับผู้ที่ต้องการทำให้จมูกโด่งขึ้น โดยไม่ได้ต้องการปรับแต่งโครงสร้างเดิมของจมูก การทำจมูกด้วยเทคนิคแบบปิดก็ถือว่าเพียงพอแล้ว ช่วยลดระยะเวลาทั้งการผ่าตัดทำจมูกและการพักฟื้น

2. ผู้ที่มีเนื้อจมูกพอสมควร เนื้อจมูกไม่บาง 

หากเป็นผู้ที่เนื้อจมูกบาง ไม่ควรผ่าตัดทำจมูกด้วยเทคนิคแบบปิด เนื่องจากแพทย์ไม่สามารถเห็นโครงสร้างภายในจมูกได้อย่างชัดเจน อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดปัญหาซิลิโคนทะลุได้

เลือกทำจมูกด้วยเทคนิคไหนดี

ควรปรึกษาขอคำแนะนำจากแพทย์ผู้ชำนาญการ จะช่วยตอบคำถามได้ตรงจุดและแนะนำได้ว่ารูปทรงจมูกที่ต้องการนั้น ผ่าตัดด้วยเทคนิคแบบใดจะเหมาะสมมากที่สุดและได้ผลลัพธ์ที่ถูกใจมากที่สุด

ปรึกษากับแพทย์ผู้ชำนาญการ ฟรี ที่ธีรพรคลินิก

หากคุณสนใจที่จะทำจมูก ปรับแต่งรูปทรงจมูกให้รับกับใบหน้ามากขึ้น สามารถปรึกษากับทีมแพทย์ผู้ชำนาญการที่ธีรพรคลินิกได้ฟรี อีกทั้งยังมีบริการติดตามผลหลังการทำจมูกตลอด 1 ปี เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

อ้างอิง :

ทำจมูกแบบ Open VS Close แบบเปิดหรือแบบปิด แบบไหนดีกว่า ?,
https://intrend.trueid.net/article/ทำจมูกแบบ-open-vs-close-แบบเปิดหรือแบบปิด-แบบไหนดีกว่า-trueidintrend_202750 

การแก้จมูกแบบ Open ดียังไง มาหาคำตอบกัน,
https://teerapornclinic.com/การแก้จมูกแบบ-open-ดียังไง-มาหาคำตอบกัน/ 

ทำจมูกจะผ่าแบบไหนดี แบบปิดหรือแบบเปิด,
https://today.line.me/th/v2/article/Qe5rPr

News