แก้จมูก

3 ปัญหาหลักที่ทำให้ต้อง “แก้จมูก” ใครที่คิดจะทำห้ามพลาด

สำหรับผู้ที่ไปศัลยกรรมทำจมูกมา ในช่วงแรกจมูกก็สวยเข้ารูปดีไม่มีสิ่งผิดปกติอะไร แต่เมื่อนานวันไปจมูกที่เคยสวยกลับเปลี่ยนแปลงในทางที่แย่ลงเรื่อยๆ ซึ่งทำให้ต้อง แก้จมูกใหม่ ในเวลาต่อมา แล้วต้องมีอาการแบบไหนที่ควรต้องไปแก้จมูกโดยด่วน หากปล่อยทิ้งไว้ อาจทำให้เกิดแผลติดเชื้อได้ สำหรับปัญหาหลักที่ผู้ศัลยกรรมจมูกต้องพบเจอนั้นมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

ปัญหาหลักที่ทำให้ต้องแก้จมูก

ปัญหาหลังทำจมูกสามารถเกิดขึ้นได้บ่อย ๆ ซึ่งก็มีหลายสาเหตุุที่ทำให้จมูกปลายบาง จมูกเอียง จมูกติดเชื้อ จมูกบวม อักเสบ บางอาการก็เพียงแค่ทานยา หรือรักษาตามคำแนะนำของแพทย์ก็หายเองได้ แต่บางอาการก็ควรต้องมีการแก้จมูกโดยด่วน อาการแบบไหนบ้างที่

1.จมูกเบี้ยว หรือ จมูกเอียง

จากจมูกที่เคยตรงสวยได้รูป กลับมีอาการเอียงอย่างเห็นชัด สำหรับสาเหตุ เกิดได้จากหลายประการ เช่น ฐานจมูกเดิมของคุณคดเอียงอยู่แล้ว ก็ทำให้ซิลิโคนค่อยๆ เอียงตามฐานนั่นเอง เนื่องจากกระดูกบริเวณตรงกลาง หรือ โพรงจมูกไม่เท่ากัน เมื่อโพรงจมูกทั้ง 2 ข้างไม่เท่ากัน ก็จะทำให้ดูเบี้ยวและไม่สวยได้ ซึ่งจะต้องได้รับการแก้ไขจมูกใหม่โดยด่วน ถ้าไม่อยากให้จมูกเบี้ยวจนใครก็ทัก

2.ปลายจมูกแหลมเกินไป

หนึ่งในปัญหาที่ทำให้ผู้ที่ทำจมูกหลายคนกังวลใจมาก นั่นก็คือ หลังจากที่เสริมจมูกมาแล้ว แต่กลับไม่ได้ตามต้องการ เช่น ปลายจมูกแหลมเกินไป หรือปลายจมูกใสเห็นเป็นแท่งซิลิโคน จนเกือบจะเป็นอาการจมูกทะลุ ซึ่งเข้าขั้นอันตรายแล้ว ควรต้องรีบไปพบศัลยแพทย์เพื่อทำการแก้จมูกหรือถอดออกโดยด่วน มิฉะนั้นอาจติดเชื้อได้ สาเหตุของการเกิดปลายจมูกแหลมเกินไป เช่น ความไม่ชำนาญของแพทย์ , ใช้แท่งซิลิโคนที่เนื้อแข็งจนเกินไป หรือตกแต่งซิลิโคนที่โด่งเกินไปไม่เหมาะสมกับเนื้อจมูกของผู้เสริม , ผู้เสริมขาดการดูแลตัวเอง เช่น พักผ่อนน้อย , ใช้มือที่ไม่ได้ล้างสัมผัสแผลบ่อย , ไม่ดูแลรักษา , ไม่ทำความสะอาด เป็นต้น เมื่อปลายจมูกแหลมเกินไปจนปลายบางควรต้องเริ่มแก้ปลายจมูกโดยด่วน

3.จมูกติดเชื้อ

สำหรับความผิดปกตินี้ จะเกิดขึ้นอย่างรุนแรง มีอาการเจ็บปวดเข้ามาร่วมด้วย สำหรับวิธีสังเกตอาการ ก็คือ แผลจะบวมแดงมาก , ปวดหนึบขึ้นมาบางเวลา หรือมีน้ำขุ่น , หนองไหลออกมาจากแผล ส่วนใหญ่แล้วอาการจะปะทุขึ้นภายใน 1 เดือนหลังจากทำศัลยกรรม หากแต่ถ้าเป็นอาการบวมอื่นๆ ที่ไม่มีอาการในข้างต้นร่วมด้วยถือเป็นเรื่องไม่ต้องกังวล หากจมูกติดเชื้อจะต้องแก้จมูกและดูแลรักษาเป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือนกว่าเนื้อเยื่อจะสมาน แผลยุบ และกลับมาเป็นปกติ จมูกติดเชื้อสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การสัมผัสบ่อยจนเกินไป จนเกิดการอักเสบ , เกิดการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง เช่น การจาม , ไออย่างรุนแรง เป็นต้น

คำถามที่พบบ่อย เมื่อต้องแก้จมูก

แก้จมูกเจ็บไหม?

การแก้จมูกโดยทั่วไปแล้วนั้น ทางศัลยแพทย์ จะมีการใช้ยาชาเฉพาะจุด หรือใช้ยานอนหลับ หรือวางยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์ในกรณีที่แก้จมูกแบบโอเพ่น ทำให้ระหว่างการแก้จมูกผู้ทำศัลยกรรมจะไม่มีความรู้สึกเจ็บเลย แต่อาจมีอาการปวดๆ ตึง ๆ หลังจากมีสติฟื้นขึ้นมาหลังทำการผ่าตัดศัลยกรรมเสร็จ

ทำไมปลายจมูกแดง?

ส่วนปลายจมูกที่แดง เกิดขึ้นจากการยืดเนื้อปลายจมูก เนื้อบริเวณปลายจึงบางลง จนทำให้เห็นเส้นเลือดฝอยชัดเจนมากขึ้น ปลายจมูกแดงแบ่งออกได้ 2 อาการคือ

1.ปลายจมูกแดงในช่วงแรก
ปลายจมูกแดงในช่วงแรกถือเป็นอาการปกติสำหรับผู้ที่ทำศัลยกรรมจมูก เนื่องจากมีการยืดของเนื้อเยื่อ และเลือดมาหล่อเลี้ยงที่ส่วนกระดูกอ่อน โดยอาการแดงแบบนี้จะแดงในช่วงแรกๆ เท่านั้น และความแดงจะค่อย ๆ หายไปเอง

2.ปลายจมูกแดงภายใน 1 เดือนหลังศัลยกรรม
ปลายจมูกแดงเช่นนี้มักจะมีอาการบวมแดง ปวดหนึบที่ปลายจมูก มีน้ำหนองไหลออกมาร่วมด้วย ซึ่งเป็นสัญญาณว่าจมูกนั้นมีการติดเชื้อแล้ว ควรต้องปรึกษาศัลยแพทย์เพื่อทำการแก้จมูกโดยเร็วที่สุด ป้องกันการเกิดจมูกทะลุ

ปลายจมูกบางจะทะลุไหม?

อย่างแรกต้องดูก่อนว่าปลายจมูกบางเพราะอะไร จะมีโอกาสทะลุหรือไม่ เช่น  

  • เนื้อจมูกน้อย เนื้อจมูกบาง 

หากผู้ทำมีเนื้อจมูกบางอยู่แล้ว แต่ศัลยกรรมจมูกด้วยการเสริมซิลิโคนเพียงอย่างเดียว ก็อาจทำให้ปลายจมูกบางก็มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดปัญหาซิลิโคนทะลุได้ ยิ่งเป็นจมูกทรงปลายพุ่งก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดปัญหาจมูกทะลุได้

  • มีการแก้จมูกหลายครั้ง 

การทำศัลยกรรมหลายครั้งมากเกินไป ก็เป็นส่วนที่ทำให้เนื้อเยื่อบางลงเรื่อย ๆ ได้ แม้การศัลยกรรมจะช่วยเพิ่มความมั่นใจได้ แต่ก็ควรอยู่ในความพอดีด้วย เพราะอาจมีปัญหาแทรกซ้อนตามมาได้ 

  • การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดไม่ดีพอ 

อาจเกิดจากหลังผ่าตัดศัลยกรรมแล้ว ผู้ทำศัลยกรรมอาจล้างหรือเช็ดทำความสะอาดผิดวิธี หรือทำได้ไม่สะอาดพอ รวมถึงการใช้มือที่สกปรกจับแผลบ่อย ๆ  การพักผ่อนน้อย ไม่ได้นอนหมอนสูง ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสให้ติดเชื้อแล้วจมูกทะลุได้

เมื่อเจอเหตุการณ์เช่นนี้ควรต้องรีบแก้จมูกให้เร็วที่สุด ด้วยการเข้ามาพบแพทย์ เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดให้ละเอียด หลังจากนั้นแพทย์ก็จะทำการถอดซิลิโคนออกจากจมูก หลังจากนั้นผู้เข้ารับบริการก็จะยังทำจมูกใหม่ไม่ได้ทันที หากแต่ต้องพักจมูกก่อนเป็นเวลา 3 – 4 เดือนจึงจะสามารถทำได้

ព័ត៌មាន