Myasthenia gravis คือ
โดยคำนี้อ่านว่า ไมแอสทีเนีย เกรวิส คือ เกิดจากโรคที่สารสื่อประสาททำงานได้ไม่เต็มที่ เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งส่งผลต่อการสื่อสาร
ระหว่างเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง โดยเฉพาะเมื่อมีการใช้งานซ้ำๆ หรือใช้งานเป็นเวลานาน เรียกสั้นๆ ว่า โรค MG
เกิดจาก
โรคนี้เรียกเป็นภาษาไทยว่า โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงชนิดร้าย โดยสาเหตุ เกิดจาก ระบบภูมิคุ้มกัน ผลิตแอนติบอดี้ ไปขัดขวาง หรือทำลายตัวรับสารสื่อประสาทที่อยู่ในกล้ามเนื้อ ส่งผลให้การส่งสัญญาณประสาทจากสมอง ไปยังกล้ามเนื้อไม่สมบูรณ์ เปรียบเทียบจากภาพด้านล่าง
อาการของโรค
ซึ่งอาการนี้ จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยทั่วไปมักพบได้บ่อยที่สุดคือ
- กล้ามเนื้ออ่อนแรงบางส่วน : เช่น กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ใบหน้า คอ แขน ขา
- หนังตาตก (ptosis) : สามารถเกิดได้ทั้งข้างเดียว หรือ 2 ข้าง
- พูดหรือกลืนลำบาก : คือกล้ามเนื้อที่ใช้ในการพูดหรือกลืนอ่อนแรง
- หายใจลำบาก : ถ้ากล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการหายใจได้รับผลกระทบ
- อาการแย่ลงเมื่อใช้งานกล้ามเนื้อ : เมื่อใช้งานกล้ามเนื้อนานๆ จะรู้สึกอ่อนแรงกว่าเดิม และจะสามารถฟื้นตัวได้ หลังการพักผ่อน
ocular myasthenia gravis คือ

ลักษณะอาการที่โรคนี้เกี่ยวข้องกับดวงตา เรียกว่า ocular myasthenia gravis โดยเฉพาะ ส่วนใหญ่ไม่ถือว่าเป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิต คือ
- หนังตาตก (Ptosis) : เกิดได้ทั้งข้างเดียวและสองข้าง ทำให้มองเห็นไม่ชัดเจน และรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน
- มองเห็นภาพซ้อน (Diplopia) : เกิดจากกล้ามเนื้อตา ที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของดวงตาอ่อนแรง ทำให้การมองเห็นผิดปกติ
การรักษา
ในปัจจุบันโรคนี้ ยังไม่มีวิธีการรักษาให้หายขาดได้ถาวร แต่สามารถรักษาด้วยการทานยา ไม่ว่าจะเป็นยาที่รักษาอาการโดยตรง
หรือกลุ่มยาสเตียรอยด์ ในรายที่เป็นหนัก และตรวจพบก้อนเนื้อที่ต่อม Thymus การผ่าตัดก็จะช่วยได้ ส่วนการผ่าตัดตาที่กล้ามเนื้อ Levator อาจจะไม่เหมาะกับคนไข้ประเภทนี้
เพราะฉะนั้นก่อนการผ่าตัดแก้ไขกล้ามเนื้อตาแบบปกติ จะต้องรู้จักและคำนึงถึงโรคนี้เป็นอย่างดี เพื่อที่จะได้รักษาอย่างตรงจุด
สรุป
โรค ไมแอสทีเนียเกรวิส (MG) เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน ส่งผลให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง โดยเฉพาะเมื่อมีการใช้งานซ้ำๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น
หนังตาตกและมองเห็นภาพซ้อน แม้ว่าโดยทั่วไปจะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ก็มีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วย