เชื่อว่าหลายคนที่ต้องการยกกระชับใบหน้าและคืนความเต่งตึงให้กับผิว ต้องคุ้นเคยกับนวัตกรรมยกกระชับใบหน้าอย่าง ไฮฟู่ (Hifu) และ อัลเทอรา (Ulthera) อย่างแน่นอน โดยทั้งสองวิธีก็มีความแตกต่างกัน ทั้งในด้านวิธีการทำงานและผลลัพธ์ที่ได้ ก่อนจะตัดสินใจเลือกกระชับผิวหน้าด้วยวิธีการใดนั้น คุณควรศึกษาข้อมูล และปรึกษาแพทย์จากคลินิกที่ไว้ใจได้ก่อนนะคะ
เปรียบเทียบ HIFU กับ ULTHERA
HIFU
ข้อดี
- คลื่นสามารถลงไปได้ลึกถึงชั้น SMAS
- ทำลายคอลลาเจนเดิมใต้ผิวหนังที่เสื่อมสภาพแล้ว
- กระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่
- ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น เต่งตึงมากขึ้น
- เหมาะกับปัญหาผิวหย่อนคล้อย มีร่องริ้วรอยแก่ก่อนวัย
- ช่วยให้ผิวกลับมากระชับ เต่งตึง ริ้วรอยดูตื้นขึ้น
- ไม่ต้องทำศัลยกรรม
- ราคาไม่แพงมากนัก
- อยู่ได้นานถึง 1 – 2 ปี
- เหมาะสำหรับกลุ่มวัยรุ่น และผู้ที่มีงบจำกัด
- ความเสี่ยงน้อย
- ไม่ต้องวางยาสลบ
- ไม่ต้องใช้เข็ม
- ผลข้างเคียงหลังการทำน้อยมาก
ข้อเสีย
- ไม่เหมาะกับ ผู้ที่คอลลาเจนใต้ผิวหนังถูกทำลายมาเป็นเวลานาน จนฟื้นฟูตัวเองได้ยาก
- ผู้ที่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ มาเป็นเวลานาน
- ผู้ที่มีผิวเสื่อมสภาพ มากเกินไป
- ผู้ที่ผิวถูกแดดทำร้าย นานเกินไป
ULTHERA
ข้อดี
- เทคโนโลยีเดียวกันกับไฮฟู่
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหน้าหย่อนคล้อยมาก
- ร่องลึกริ้วรอยหลายจุด
- แก้ไขปัญหาจุดต่างๆ บนใบหน้า ไปพร้อม ๆ กับการยกกระชับ
- คืนความใสและอิ่มฟูให้กับผิวหน้าอีกครั้ง
ข้อเสีย
- แสบผิวขณะทำมากกว่าไฮฟู่ (Hifu)
- มีค่าใช้จ่ายที่สูง
- ผลลัพธ์อยู่ได้พอ ๆ กับการทำไฮฟู่ (Hifu)
สรุป
แน่นอนว่าไฮฟู่ (Hifu) ถือเป็นวิธีการกระชับผิวหน้า ที่มีค่าใช้จ่ายไม่แพงมาก ถือว่าคุ้มค่าสำหรับผู้ที่อายุยังน้อย แต่ต้องการป้องกันปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยก่อนวัย แต่สำหรับผู้ที่มีผิวหน้าหย่อนคล้อยมาก และมีปัญหาที่ต้องการแก้หลายจุด หากต้องการผลลัพธ์ผิวที่กระชับ เต่งตึง เห็นผลชัดเจนและดูอ่อนเยาว์ แบบไม่ต้องทำซ้ำบ่อย ๆ การดึงหน้า Face-Lock ก็เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีและเหมาะกับผู้ที่มีผิวหน้าหย่อนคล้อย เหี่ยวย่น มีริ้วรอยร่องลึกมาก และต้องการแก้ปัญหาหลายจุดให้จบในคราวเดียว
เนื้อหาโดย
ผศ.นพ. ชลธิศ สินรัชตานันท์ (หมอชล)
- ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอสเตติก คอนเนค (TRP)
- นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งอาเซียน
- อดีตนายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย
- เจ้าของธีรพร