อาการแพ้ฟิลเลอร์เป็นสิ่งที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้กับทุกคน แม้ว่าเราจะเลือกฉีดที่เป็นของแท้ และผ่านการรับรองจาก อย. ก็ตาม ดังนั้นก่อนที่จะเข้ารับบริการฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มรูปหน้า และแก้ปัญหาผิวต่าง ๆ คุณควรที่จะศึกษาลักษณะอาการแพ้เสียก่อน เพื่อที่จะได้สังเกตอาการเบื้องต้น ด้วยตนเอง และสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะสม
อาการแพ้ เป็นอย่างไร ?
คือ ปฏิกิริยาทางร่างกายที่เกิดการต่อต้าน กับสารบางชนิดที่อยู่ในฟิลเลอร์ แล้วไปกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ทำงานมากผิดปกติ จนก่อให้เกิดอาการผิดปกติตามมา การแพ้ที่เป็สารสังเคราะห์ไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) นั้นจะมีโอกาสพบได้น้อยมาก เพราะเป็นสารที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับ ไฮยาลูรอนิคแอซิด ที่ร่างกายสามารถผลิตได้เอง
สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ และไม่ตกค้างในร่างกาย ส่วนใหญ่แล้วจะพบอาการแพ้ในคน ที่ใช้ฟิลเลอร์ของปลอมมากกว่า เนื่องจากฟิลเลอร์ปลอม จะมีซิลิโคนเหลวเป็นส่วนประกอบ ไม่มีความปลอดภัย ไม่สามารถย่อยสลายได้เอง และก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ง่าย
ลักษณะอาการแพ้ฟิลเลอร์
ลักษณะอาการจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ ดังนี้
- ผื่นลมพิษแบบรุนแรง (Angioedema) เป็นอาการแพ้ที่พบได้น้อยมาก โดยจะมีลักษณะเป็นผื่นบวมนูน แดง มีขนาดไม่แน่นอน อาจคล้ายตุ้มยุ่ง มดกัด หรือมีลักษณะคล้ายแผนที่ โดยบางคนอาจมีอาการบวมบริเวณที่ฉีดด้วย เมื่อเกิดอาการเหล่านี้แล้ว จะต้องรีบแจ้งให้แพทย์ทราบ เพื่อรับการรักษาทันที
- เป็นก้อนบวมนูน แดง และอักเสบ (Delay Hypersensitivity) เป็นอาการแพ้ที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่ฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วหลาย ๆ เดือน หรือเป็นปี ขึ้นอยู่กับอายุการใช้งานของฟิลเลอร์ที่ฉีด และระบบภูมิคุ้มกันของแต่ละคน โดยในเบื้องต้น สามารถบรรเทาอาการบวมได้ด้วยการรับประทานยาฆ่าเชื้อ แต่ถ้าหากมีอาการรุนแรงมาก อาจจำเป็นต้องเข้ามาพบแพทย์เพื่อฉีดสลายฟิลเลอร์
ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น มีอะไรบ้าง?
นอกจากอาการแพ้แล้ว การฉีดฟิลเลอร์ก็มีโอกาสเกิดผลข้างเคียง ที่ไม่พึงประสงค์ได้เช่นกัน เพื่อให้คุณสามารถแยกได้ว่า อันไหนคืออาการแพ้ อันไหนคือผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์ เราได้รวมผลข้างเคียง ที่สามารถเกิดขึ้นได้จากการฉีดฟิลเลอร์มาให้แล้ว จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย!
- รอยแดงจากเข็ม เป็นผลข้างเคียงที่พบได้ตามปกติ ส่วนใหญ่จะหายได้เองภายใน 2 – 3 วัน
- อาการบวม รอยช้ำ เป็นผลข้างเคียงที่พบได้ตามปกติ ส่วนใหญ่จะหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์
- ฟิลเลอร์เคลื่อนตัวไปยังบริเวณข้างเคียง เกิดจากการที่ขยับ หรือเคลื่อนไหวบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์บ่อยเกินไป
- ฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด : เป็นผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายมาก เมื่อเกิดขึ้นแล้ว จะต้องทำการฉีดสลายฟิลเลอร์ด้วยเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase) ทันที
- ตาบอด เป็นผลข้างเคียงที่พบได้น้อยมาก เกิดจากฟิลเลอร์อุดตันหลอดเลือดแดง ที่มีความสัมพันธ์กับเส้นเลือดแดง ที่จะนำไปเลือดไปเลี้ยงที่จอประสาทตา
แก้อย่างไร
หากเกิดผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไป หลังฉีดฟิลเลอร์อย่างรอยแดงจากเข็ม อาการบวม หรือรอยช้ำ ไม่จำเป็นต้องไปพบแพทย์ เพียงแค่ดูแลตนเอง ตามที่แพทย์แนะนำ อาการก็จะค่อยๆ ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม หากเกิดผลข้างเคียงอื่นๆ หรือเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง จะต้องรีบไปพบแพทย์ เพื่อตรวจประเมินอาการ และเข้ารับการรักษา ด้วยวิธีการที่เหมาะสมทันที ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพราะอาจเป็นอันตรายได้
สรุป
จะเห็นได้ว่า การฉีดฟิลเลอร์ที่เป็นของแท้ ก็สามารถทำให้เกิดอาการแพ้ได้ หรือเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้เช่นกัน เพื่อความปลอดภัยในการฉีด จึงควรฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ใช้ฟิลเลอร์ของแท้ และมีการตรวจติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ ศูนย์ศัลยกรรมความงาม ธีรพร เราให้การดูแลโดยอาจารย์แพทย์เฉพาะทาง มาตรฐานโรงพยาบาล มั่นใจได้เลยว่า ผู้เข้าใช้บริการจะได้รับการดูแลที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน
เนื้อหาโดย
ผศ.นพ. ชลธิศ สินรัชตานันท์ (หมอชล)
- ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอสเตติก คอนเนค (TRP)
- นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งอาเซียน
- อดีตนายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย
- เจ้าของธีรพร
