ประเภทการดึงหน้าแบบต่างๆ
1.การดึงหน้า FACE LIFT แบบดั้งเดิม (Traditional facelift)
เป็นการผ่าตัดFaceliftแบบดั้งเดิม ออกแบบมาสำหรับชาวตะวันตก โดยแพทย์จะเปิดแผลบริเวณเหนือหู บริเวณขมับ ลากผ่านผิวหนังหลังแนวผม ลงมาที่หน้าใบหู ขอบหูด้านหน้า ลงไปที่ติ่งหู อ้อมไปทางด้านหลัง และตัดเข้าไปในแนวเส้นผมอีกที ทำให้แผลผ่าตัดส่วนใหญ่ จะถูกซ่อนเอาไว้ตามแนวเส้นผม มีข้อเสียคือไม่เหมาะกับผิวคนเอเชีย และอาจจะมีผลข้างเคยงคือ ผมหาย ไรผมหาย มีรอยแผลเป็น ติ่งหูหาย
2.การดึงหน้า Endotine
เป็นการผ่าตัดดึงหน้าโดยใช้เอนโดไทน์ (Endotine) เป็นวัสดุที่มีรูปร่างคล้ายกับมุดเล็ก ๆ มีก้านคล้ายกับหนาม ยื่นออกมาทั่วบริเวณหมุด มีขนาดเล็กไม่ถึง 1 เซนติเมตร ลงไปตามตำแหน่งต่าง ๆ เพื่อยึด และดันผิวที่หย่อนคล้อย หรือยุบตัวให้กลับมาเต่งตึงอีกครั้ง ข้อดีของการใช้วัสดุเอนโดไทน์ก็คือ วัสดุนี้จะสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ตกค้างในร่างกาย จึงทำให้ไม่สร้างอันตรายต่อเนื้อเยื่อ อีกทั้งยังมีให้เลือกใช้งานหลากหลายรูปแบบ สามารถแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อยบนใบหน้าบริเวณต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุม แต่มีข้อเสียเรื่องความคงทน ไม่สามารถอยู่ได้นาน
3.การดึงหน้าแบบFack-Lock แผลเล็ก
FACE LOCK หรือที่เรียกกันว่า “การผ่าตัดดึงหน้าแผลเล็ก” เป็นเทคนิคการผ่าตัดดึงหน้า ที่คิดค้นโดย อาจารย์หมอชลธิศ เป็นนวัตกรรมการดึงหน้า ที่เหมาะกับผิวหนังคนไทย และคนเอเชีย โดยมีเทคนิคการเย็บล็กที่คงทน และมีแผลแล็ก ทำให้ช่วยลดระยะเวลาพักฟื้น และทำให้กลับไปใช้ชีวิตปกติหลังผ่าตัดได้เร็วกว่าปกติ (ไม่ต้องพักฟื้น) สำหรับวิธีการดึงหน้า Face-Lock ของอาจารย์หมอชลธิศ จะมีความคงทนอยู่นาน เพราะเป็นการเย็บด้วยเทคนิกของทางธีรพร และเย็บ Lock ลึกถึงเนื้อเยื่อชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ทำให้ผลลัพท์อยู่นาน 5-10 ปีขึ้นไป
การเลือกประเภทศัลยกรรมดึงหน้า
การเลือกประเภทศัลยกรรมดึงหน้า และเทคนิคการผ่าตัด จะขึ้นอยู่กับปัญหาผิวหย่อนคล้อยของแต่ละคน เพราะบริเวณผิวแต่ละส่วน จะส่งผลต่อตำแหน่งการเปิดแผล เพื่อดึงหน้าด้วย ยกตัวอย่างเช่น ในคนที่หน้าผากกว้าง ต้องการให้หน้าผากแคบลง จะต้องผ่าตัดเปิดแผลตามแนวไรผม แต่สำหรับคนที่ต้องการดึงหน้าส่วนบน และหางตา เพื่อแก้ไขปัญหารอยตีนกา หรือคิ้วตก ก็จะต้องเปิดแผลที่บริเวณขมับ และควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญการศัลยกรรมเฉพาะใบหน้า
สำหรับใครที่อยากทราบว่า ตนเองเหมาะกับการผ่าตัดดึงหน้าด้วยวิธีใด แนะนำให้เข้ามาให้ทีมแพทย์ที่สถาบันศัลยกรรมตกแต่ง ธีรพร ช่วยประเมินจะดีที่สุด ผลลัพธ์ของการดึงหน้านั้น จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและกล้ามเนื้อของใบหน้า ปัญหาที่พบบริเวณใบหน้า และประเภทการดึงหน้าที่ใช้ แต่โดยทั่วไปแล้ว ผลลัพธ์ของการดึงหน้าจะคงอยู่ได้ประมาณ 5-10 ปี จึงนับเป็นอีกหนึ่งวิธีดูแลรักษาผิว ให้เรียบเนียนและอ่อนเยาว์
สรุป
การดึงหน้ามีหลากหลายวิธี ซึ่งการดึงหน้าแบบดั้งเดิม (Traditional Facelift) ที่ไม่เหมาะกับคนเอเชีย ส่วนการดึงหน้าแบบ Endotine คือวัสดุสามารถสลาบได้เองตามธรรมชาติ ส่วนการดึงหน้าของธีรพรคือ Face Lock มีความคงทนยาวนานถึง 5 – 10 ปี ทำให้ผิวใบหน้าเรียบเนียนและอ่อนเยาว์
เนื้อหาโดย
ผศ.นพ. ชลธิศ สินรัชตานันท์ (หมอชล)
- ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอสเตติก คอนเนค (TRP)
- นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งอาเซียน
- อดีตนายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย
- เจ้าของธีรพร